คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 365/2532

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การตั้งผู้แทนเฉพาะคดีก็เพื่อดำเนินคดีแทนผู้เสียหายที่เป็นผู้เยาว์หรือผู้วิกลจริตที่ไม่มีผู้ดำเนินคดีแทน เมื่อผู้เสียหายถึงแก่ความตายไปก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์เป็นผู้แทนเฉพาะคดี ย่อมไม่มีเหตุที่จะตั้งผู้แทนเฉพาะคดีเพื่อมาดำเนินคดีแทนตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา อีกต่อไป ทั้งกรณีไม่ใช่ผู้เสียหายถึงแก่ความตายหลังจากที่ศาลตั้งโจทก์เป็นผู้แทนเฉพาะคดีและได้ยื่นฟ้องแทนไว้แล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 29 วรรคสอง ดังนี้ ต้องยกคำร้องของผู้ร้อง.(ที่มา-ส่งเสริม)

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องจากนางลำดวน ภักดี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยทั้งสามในความผิดเกี่ยวกับเอกสารและความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ อ้างว่ากระทำในฐานะผู้แทนเฉพาะคดีของนางตามน ภักดีผู้เสียหายซึ่งเป็นมารดาและยื่นคำร้องขอเป็นผู้แทนเฉพาะคดีของนางตามน ภักดี มารดาอ้างว่าเป็นผู้วิกลจริต มาพร้อมกับคำฟ้อง ระหว่างไต่สวนคำร้อง นางตามน ภักดี ถึงแก่ความตาย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า นางตามน ภักดี ถึงแก่ความตายไปก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องเป็นผู้แทนเฉพาะคดี กรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 6 และมาตรา 29 วรรคสอง คดีไม่จำเป็นต้องไต่สวน ให้ยกคำร้องจำหน่ายคดีจากสารบบความ
โจทก์อุทธรณ์ว่า ศาลชอบที่จะไต่สวนคำร้องขอเป็นผู้แทนเฉพาะคดีและไต่สวนมูลฟ้องต่อไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 6 และมาตรา 29 วรรคสอง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ‘ปัญหาต้องวินิจฉัยมีว่า เมื่อนางตามน ภักดีผู้เสียหายซึ่งโจทก์อ้างว่าวิกลจริตถึงแก่ความตายไปก่อนที่ศาลจะตั้งโจทก์เป็นผู้แทนเฉพาะคดี โจทก์จะดำเนินคดีที่ร้องขอให้ตั้งโจทก์เป็นผู้แทนเฉพาะคดีต่อไปได้หรือไม่เห็นว่าการตั้งผู้แทนเฉพาะคดีก็เพื่อดำเนินคดีแทนผู้เสียหายที่เป็นผู้เยาว์หรือเป็นผู้วิกลจริตที่ไม่มีผู้ดำเนินคดีแทน เมื่อผู้เสียหายถึงแก่ความตายไปแล้ว ย่อมไม่มีเหตุที่จะตั้งผู้แทนเฉพาะคดีเพื่อดำเนินคดีแทนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 6 อีกต่อไป ทั้งมิใช่กรณีที่ผู้เสียหายถึงแก่ความตายหลังจากที่ศาลตั้งให้โจทก์เป็นผู้แทนเฉพาะคดีและได้ยื่นฟ้องแทนไว้แล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 29 วรรคสองที่โจทก์จะว่าคดีต่อไปได้…’
พิพากษายืน.

Share