แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
แม้ข้อตกลงระหว่าง ส. กับจำเลยตามรายงานเบ็ดเสร็จประจำวันมีใจความว่า ส.ได้เรียกร้องค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาลตัวเองและของภรรยาเป็นเงินรวม 27,500 บาท และไม่ติดใจเรียกร้องค่าเสียหายอื่นใดอีกต่อไปทั้งทางแพ่งและอาญาก็ตามแต่ยังมีข้อความอีกว่า สำหรับรถยนต์ของ ส. นั้น คู่กรณีทั้งสองฝ่ายจะไปทำการเจรจากันในภายหลังต่อไปแสดงว่าคู่กรณีเจตนาแยกการเรียกค่าเสียหายจากการซ่อมแซมรถยนต์ออกจากค่าเสียหายจำนวน 27,500 บาทส.จึงไม่สูญสิทธิที่จะเรียกร้องค่าซ่อมแซมรถยนต์ในภายหลังเมื่อโจทก์ผู้รับประกันภัยรถยนต์ของ ส. ได้นำรถยนต์ดังกล่าวไปซ่อมแซมและชำระค่าซ่อมแซมแล้ว โจทก์ย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของ ส.ในอันที่จะเรียกร้องเงินค่าซ่อมแซมรถยนต์จากจำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 880
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาบังคับให้จำเลยชดใช้เงินจำนวน42,078.72 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ในต้นเงิน39,143 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ในฐานะผู้รับช่วงสิทธิตามสัญญาประกันภัย
จำเลยให้การว่า หลังเกิดเหตุจำเลยและผู้ขับขี่รถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 2ก-2370 กรุงเทพมหานคร ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความระงับข้อพิพาทในการเรียกร้องค่าเสียหายซึ่งกันและกัน โจทก์จึงไม่สามารถรับช่วงสิทธิของผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวมาเรียกร้องให้จำเลยชำระค่าซ่อมและเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้ ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยชำระค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน 39,143 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2527 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2526 บริษัทโจทก์ได้รับประกันภัยรถยนต์เก๋งหมายเลขทะเบียน 2ก-2370 กรุงเทพมหานคร ไว้จากพันจ่าอากาศเอกโสภณ บุญรอด ในวงเงิน 100,000 บาท อายุสัญญา 1 ปี ตามสำเนากรมธรรม์ประกันภัย เอกสารหมาย จ.3 วันที่ 29 ตุลาคม 2526เวลา 02.00 นาฬิกา รถยนต์คันดังกล่าวได้แล่นจากวัดเบญจมบพิตรไปทางสี่แยกทางรถไฟ ขณะนั้น จำเลยได้ขับขี่รถยนต์เก๋งหมายเลขทะเบียน6ข-4624 กรุงเทพมหานคร สวนทางมาแล้วเกิดชนกัน พนักงานสอบสวนมีความเห็นว่า จำเลยเป็นฝ่ายประมาท จำเลยยินยอมเสียค่าปรับเป็นเงิน 400 บาท วันที่ 2 มีนาคม 2527 พันจ่าอากาศเอกโสภณได้เจรจาตกลงกับจำเลยเรื่องค่าเสียหาย และค่ารักษาพยาบาลจำเลยยินยอมใช้เงินตามที่พันจ่าอากาศเอกโสภณเรียกร้องจำนวน 27,500 บาทปรากฏตามรายงานเบ็ดเสร็จประจำวัน เอกสารหมาย จ.4 หลังเกิดเหตุโจทก์ได้นำรถยนต์เก๋งหมายเลขทะเบียน 2ก-2370 ไปซ่อมแซมและได้จ่ายเงินค่าซ่อมไปแล้ว คดีมีปัญหาว่า โจทก์ได้รับช่วงสิทธิที่จะเรียกร้องค่าเสียหายจากจำเลยตามฟ้องหรือไม่ พิเคราะห์เอกสารหมาย จ.4 ปรากฏใจความว่า “พันจ่าอากาศเอกโสภณ บุญรอดพร้อมด้วยนายพิศาล อังกูรวิรุทธ์ ได้มาสถานีตำรวจและทำการเจรจาตกลงค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาล คู่กรณีทั้งสองฝ่ายได้ขับขี่รถยนต์เกิดเหตุชนกันขึ้นได้รับความเสียหายทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บ และมี ภรรยาของพันจ่าอากาศเอกโสภณ และนั่งมาในรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 2ก-2370 ซึ่งพันจ่าอากาศเอกโสภณเป็นผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บด้วย ฝ่ายพันจ่าอากาศเอกโสภณได้เรียกร้องค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาลตัวเอง และของนางจำปีภรรยาเป็นเงินรวม 27,500 บาท และไม่ติดใจเรียกร้องค่าเสียหายอื่นใดอีกต่อไปทั้งทางแพ่งและอาญานายพิศาล ได้มอบเงินสดจำนวนดังกล่าวมอบให้ทางฝ่ายพันจ่าอากาศเอกโสภณรับไปเรียบร้อยแล้วสำหรับรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 2ก-2370 ที่เป็นรถยนต์ของพันจ่าอากาศเอกโสภณเองนั้น คู่กรณีทั้งสองฝ่ายจะไปทำการเจรจากันในภายหลังต่อไป” เห็นว่าข้อความว่า “ฝ่ายพันจ่าอากาศเอกโสภณได้เรียกร้องค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาลตัวเอง และของนางจำปีภรรยาเป็นเงินรวม 27,500 บาท”นั้น เกี่ยวโยงสืบเนื่องจากข้อความแสดงความบาดเจ็บของคู่กรณีทั้งสองฝ่ายและภรรยาของพันจ่าอากาศเอกโสภณแสดงเจตนารมณ์ของคู่กรณีว่าเงิน 27,500 บาท ดังกล่าวเป็นค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาลของพันจ่าอากาศเอกโสภณและภรรยาเท่านั้นแม้จะมีใจความต่อไปว่า “…และไม่ติดใจเรียกร้องค่าเสียหายอื่นใดอีกต่อไปทั้งทางแพ่งและทางอาญา…” ก็ตาม แต่ก็ยังมีข้อความขยายอธิบายอีกว่า “สำหรับรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 2ก-2370 คู่กรณีทั้งสองฝ่ายจะไปทำการเจรจากันในภายหลังต่อไป” ซึ่งแสดงว่าคู่กรณีเจตนาแยกการเรียกค่าเสียหายจากการซ่อมแซมรถยนต์คันซึ่งพันจ่าอากาศเอกโสภณขับให้แยกออกจากค่าเสียหายจำนวน 27,500 บาท ศาลฎีกาเห็นว่าข้อตกลงระหว่างพันจ่าอากาศเอกโสภณและจำเลยในรายงานประจำวันเอกสารหมาย จ.4 ไม่ทำให้พันจ่าอากาศเอกโสภณสูญสิทธิที่จะเรียกร้องค่าซ่อมแซมรถยนต์ในภายหลัง เมื่อได้ความจากนางสาวพนิดา ศุภวิไลผู้รับมอบอำนาจโจทก์และนายสมเกียรติ ลิขิตรักษ์วงศ์ พนักงานอู่สมรภูมิคาร์แคร์ว่าโจทก์ได้นำรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 2ก-2370ไปซ่อมแซมที่อู่ดังกล่าวและได้ชำระค่าอะไหล่ค่าแรงจำนวน 39,143 บาทตามใบบิลเงินสด เอกสารหมาย จ.16 อันเป็นราคาพอสมควรแล้วโจทก์ผู้รับประกันภัยจึงรับช่วงสิทธิพันจ่าอากาศเอกโสภณในอันที่จะเรียกร้องเงินจำนวนดังกล่าวจากจำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 880 ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวนดังกล่าวแก่โจทก์ ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย”
พิพากษายืน