คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3874/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

เงินค่าตอบแทนที่บริษัท น. ซึ่งเป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศและมิได้ประกอบกิจการในประเทศไทยได้รับจากโจทก์ตามสัญญาการให้ความรู้ทางวิศวกรรมเนื่องจากบริษัท น.ได้มอบสิทธิในการผลิตกาแฟผงให้แก่โจทก์ภายใต้เงื่อนไขและการควบคุมของบริษัท น. โดยมีข้อสัญญาว่าบริษัท น.จะให้บริการความรู้ทางวิศวกรรมในการผลิตกาแฟผงสำเร็จรูปให้มีคุณภาพได้มาตรฐานสูงแต่เมื่อเลิกสัญญากันสิทธิของโจทก์ในการที่จะผลิตกาแฟผงก็หมดไป มิใช่เงินได้จากวิชาชีพอิสระคือวิศวกรรมตามความหมายของมาตรา 40(6) แห่งประมวลรัษฎากรและเงินค่าตอบแทนตามลักษณะของสัญญาให้ความรู้ทางวิศวกรรมดังกล่าวก็มิใช่เงินได้เนื่องจากหน้าที่หรือตำแหน่งงานที่ทำหรือจากการรับทำงานให้ตามความหมายของมาตรา 40(2) แต่เป็นการที่บริษัท น.ได้รับค่าตอบแทนเนื่องจากการอนุญาตให้โจทก์ใช้สิทธิผลิตกาแฟผงตามสูตรของบริษัท น. ภายใต้เงื่อนไขของสัญญาการให้ความรู้ด้านวิศวกรรม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้เพิกถอนการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาที่วินิจฉัยมีว่า การประเมินเรียกเก็บภาษีเงินได้จากโจทก์ตามหนังสือแจ้งให้นำส่งภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ 1048/2/02489-02492 รวม 4 ฉบับ และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ เลขที่ 15 ข./2528 ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ โจทก์นำสืบว่า เงินที่โจทก์ส่งไปให้บริษัทเนสท์เล่ โพรดัคท์ส เทคนิคัล แอซซิสแทนซ์ คัมปะนี ลิมิเต็ดนั้น เป็นเงินค่าตอบแทนที่บริษัทดังกล่าวให้ความรู้และคำปรึกษาแก่โจทก์ทางด้านวิศวกรรมในการผลิตกาแฟผงจึงเป็นเงินได้จากวิชาชีพอิสระ ตามความหมายของประมวลรัษฎากร มาตรา 40(6)ซึ่งโจทก์มีสิทธิหักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาร้อยละ 40 ตามมาตรา 70(4)ฝ่ายจำเลยอ้างว่าบริษัทดังกล่าวมิได้ให้ความรู้และความช่วยเหลือโจทก์แต่เฉพาะด้านวิศวกรรมเท่านั้น แต่ได้ให้ความช่วยเหลือในปัญหาด้านอื่น ๆ เป็นการทั่วไปด้วย ดังนั้นเงินค่าตอบแทนที่โจทก์จ่ายให้ จึงเข้าลักษณะเป็นเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์ใด ๆบรรดาที่ได้รับเนื่องจากการรับทำงานให้ตามมาตรา 40(2) ซึ่งโจทก์มีสิทธิหักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาร้อยละ 20 แต่ต้องไม่เกิน 20,000บาท ตามมาตรา 70(1) เงินค่าตอบแทนดังกล่าวจะเป็นเงินได้พึงประเมินประเภทใดนั้น ศาลฎีกาได้ตรวจสัญญาการให้ความรู้ทางวิศวกรรมเอกสารหมาย ล.1 ที่ทำขึ้นระหว่างโจทก์กับบริษัทเนสท์เล่โพรดัคท์ส เทคนิคัล แอซซิสแทนซ์ คัมปะนี ลิมิเต็ด ซึ่งในสัญญาเรียกว่า “เนสเทค” แล้ว แม้รายละเอียดของสัญญาระบุว่าเนสเทค จะให้บริการเกี่ยวกับความรู้ทางด้านวิศวกรรมโดยให้ความช่วยเหลือในการผลิตกาแฟผงสำเร็จรูป ตามที่โจทก์ต้องการทุกประการ เพื่อให้โจทก์ประกอบกิจการอย่างมีประสิทธิภาพตามแผนงานและเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของโจทก์มีคุณภาพได้มาตรฐานสูง แต่ในเอกสาร ล.1 ข้อ 10 มีรายละเอียดว่าเมื่อมีการเลิกสัญญานี้โจทก์จะต้องส่งคืนบุคคลหรือเอกสารซึ่งได้รับแต่งตั้งจากเนสเทคโดยพลัน รวมทั้งสำเนาเกี่ยวกับข้อสนเทศทางเทคนิคที่ถือเป็นความลับ และโจทก์จะต้องเลิกใช้กรรมวิธีในการผลิต วิทยาการหรือเครื่องประดิษฐ์ซึ่งเนสเทค แนะให้ใช้ในระหว่างอายุสัญญานี้โดยพลันถือได้ว่าสัญญาดังกล่าวบริษัทเนสท์เล่ โพรคัคท์สเทคนิคัล แอซซิสแทนซ์ คัมปะนี ลิมิเต็ด ได้มอบสิทธิในการผลิตกาแฟผงให้แก่โจทก์ภายใต้เงื่อนไขและการควบคุมของบริษัทดังกล่าวตามที่ปรากฏในสัญญาการให้ความรู้ทางวิศวกรรม เอกสารหมาย ล.1 เพราะโจทก์ไม่มีสิทธิเป็นเจ้าของในการผลิตกาแฟผงเพียงแต่ได้สิทธิผลิตกาแฟผงในประเทศไทยภายใต้ความควบคุมดูแลของบริษัทดังกล่าวโดยโจทก์จะต้องชำระเงินตอบแทนเป็นการแลกเปลี่ยนกับสิทธินั้น ครั้นเมื่อเลิกสัญญากันสิทธิของโจทก์ในการที่จะผลิตกาแฟผงก็หมดไป นอกจากนี้ค่าตอบแทนที่โจทก์ชำระให้แก่บริษัทเนสท์เล่ โพรดัคท์ส เทคนิคัล แอซซิสแทนซ์ คัมปะนีลิมิเต็ด ก็เป็นอัตราส่วนกับยอดขายสุทธิสำหรับผลิตภัณฑ์ดังกล่าว บริษัทนั้นจึงได้ส่งเจ้าหน้าที่มาควบคุมดูแลการผลิตกาแฟผงให้ได้คุณภาพและมาตรฐานเพื่อยอดจำหน่ายจะสูงซึ่งทำให้ค่าตอบแทนมากยิ่งขึ้น ดังนั้นค่าตอบแทนที่บริษัทเนสท์เล่ โพรดัคท์ส เทคนิคัล แอซซิสแทนซ์ คัมปะนี ลิมิเต็ดซึ่งเป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศและมิได้ประกอบกิจการในประเทศไทยได้รับไปจากโจทก์นั้นจึงหาใช่เป็นเงินได้จากวิชาชีพอิสระ คือวิศวกรรมตามความหมายของมาตรา 40(6)แห่งประมวลรัษฎากรไม่ ส่วนที่จำเลยว่าการที่บริษัทเนสท์เล่โพรดัคท์ส เทคนิคัล แอซซิสแทนซ์ คัมปะนี ลิมิเต็ด ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือแนะนำโจทก์ในด้านการผลิตกาแฟผงและโจทก์ได้ส่งเงินไปให้บริษัทดังกล่าวเป็นค่าตอบแทน การให้ความช่วยเหลือมิได้จำกัดเฉพาะด้านวิศวกรรมแต่รวมถึงการทำงานในเรื่องอื่น ๆ ด้วย เงินที่ส่งไปจึงเป็นเงินได้จากการรับทำงานให้ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 40(2) ซึ่งต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 70(1) นั้น ศาลฎีกาก็เห็นว่าลักษณะการของสัญญาการให้ความรู้ทางวิศวกรรมเอกสารหมาย ล.1 ไม่ใช่เป็นเงินได้เนื่องจากหน้าที่หรือตำแหน่งงานที่ทำหรือจากการรับทำงานให้ ตามความหมายของมาตรา 40(2) แต่เป็นการที่บริษัทเนสท์เล่ โพรดัคท์สเทคนิคัล แอซซิสแทนซ์ คัมปะนี ลิมิเต็ด ได้รับค่าตอบแทนเนื่องจากการอนุญาตให้โจทก์ใช้สิทธิผลิตกาแฟผงตามสูตรของบริษัทภายใต้เงื่อนไขของสัญญาดังกล่าว คำพิพากษาฎีกาที่จำเลยอ้างในฎีกานั้นข้อเท็จจริงไม่ตรงกับคดีนี้ ดังนั้น การที่เจ้าพนักงานประเมินของจำเลยประเมินเรียกเก็บภาษีเงินได้จากโจทก์และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ตามฟ้อง จึงเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผลของคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อุทธรณ์จำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share