คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3317/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในการบังคับคดีตามคำพิพากษาซึ่งส่วนหนึ่งให้จำเลยขุดดินถมลำกระโดงภารจำยอมให้มีสภาพดังเดิมนั้น หากต่อมาปรากฏความจริงตามคำร้องของจำเลยว่า ลำกระโดงดังกล่าวหมดสภาพภารจำยอมแล้ว เพราะถูกถนนสาธารณะตัดผ่าน ภารจำยอมย่อมสิ้นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1400 และถ้าให้จำเลยขุดดินถมลำกระโดงให้มีสภาพดังเดิมแล้วจะทำให้บุคคลภายนอกเสียหายซึ่งเป็นเรื่องที่จำเลยไม่สามารถปฏิบัติตามคำพิพากษาได้โดยสุจริต ดังนั้นการที่ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์ดำเนินการทางเจ้าพนักงานบังคับคดีและให้ยกคำร้องของจำเลยโดยไม่ทำการไต่สวนจึงไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณาศาลชั้นต้นชอบที่จะไต่สวนคำร้องของจำเลยแล้วมีคำสั่งตามรูปคดี.

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสามบุกรุกที่ดินของโจทก์และถมดินปิดกั้นลำกระโดงภารจำยอม ศาลฎีกาพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ร่วมกับจำเลยที่ 2 และที่ 3 ดำเนินการขอรังวัดแก้โฉนดที่ดินเลขที่ 12088 และ 12087 โดยหักเนื้อที่ดินส่วนที่รุกล้ำเข้าไปในที่ดินโฉนดเลขที่ 5428 ของโจทก์ออก โดยให้ที่ดินโฉนดเลขที่ 5428 ส่วนที่ติดกับที่ดินโฉนดเลขที่12088 และ 12087 มีอาณาเขตตามเส้นสีเขียวทึบในแผนที่พิพาทหากจำเลยทั้งสามไม่ดำเนินการดังกล่าว ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยทั้งสาม โดยจำเลยทั้งสามร่วมกันเสียค่าใช้จ่ายในการรังวัดแก้โฉนดซึ่งจำเลยที่ 2 ที่ 3เสียค่าใช้จ่ายร่วมกับจำเลยที่ 1 เฉพาะส่วนที่แก้ไขโฉนดของตน และให้จำเลยที่ 2 ที่ 3 รื้อรั้ว ขุดดินที่ถมซึ่งจำเลยที่ 2 ที่ 3 กระทำรุกล้ำเข้าไปในลำกระโดงให้ลำกระโดงมีสภาพดังเดิม
ศาลชั้นต้นได้ออกหมายบังคับคดี
จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องว่า ได้ทำการรังวัดหักเนื้อที่ดินส่วนที่รุกล้ำ รื้อถอนกำแพงรั้วและก่อสร้างใหม่ตามเส้นสีเขียวในแผนที่พิพาทตามคำพิพากษาศาลฎีกาแล้ว ส่วนลำกระโดงหมดสภาพภารจำยอม เพราะถูกถนนสาธารณะตัดผ่าน ภารจำยอมสิ้นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1400 ถ้าให้จำเลยที่ 2 ขุดดินที่ถมลำกระโดงให้มีสภาพดังเดิมแล้วจะทำให้บุคคลภายนอกที่ซื้อที่ดินไปได้รับความเสียหาย ขอให้ศาลมีคำสั่งระงับการปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาในส่วนที่ให้ขุดดินในลำกระโดงให้มีสภาพดังเดิม
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ให้โจทก์ดำเนินการทางเจ้าพนักงานบังคับคดี ยกคำร้อง ค่าคำร้องให้เป็นพับ
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งของศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ 2 แล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดีค่าฤชาธรรมเนียมให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อมีคำสั่งใหม่
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ที่โจทก์ฎีกาว่าจำเลยที่ 2 จงใจที่จะไม่ปฏิบัติตามคำบังคับของศาลชั้นต้น ขอให้ยกคำร้องของจำเลยที่ 2 โดยไม่ต้องไต่สวนนั้น เห็นว่าตามคำร้องของจำเลยที่ 2 ว่าได้ทำการรังวัดหักเนื้อที่ดินส่วนที่รุกล้ำรื้อถอนกำแพงและสร้างใหม่ตามคำพิพากษาศาลฎีกาแล้วแต่ที่ให้ขุดดินที่ถมรุกล้ำเข้าไปในลำกระโดงให้มีสภาพดังเดิมจะทำให้บุคคลอื่นเสียหาย ถ้าข้อเท็จจริงได้ความตามคำร้องของจำเลยที่ 2 ก็เป็นเรื่องที่จำเลยที่ 2 ไม่สามารถจะปฏิบัติตามคำพิพากษาได้โดยสุจริตศาลชั้นต้นชอบที่จะทำการไต่สวนคำร้องให้ทราบข้อเท็จจริงแล้วมีคำสั่งตามรูปคดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งของศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องและมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดีนั้นชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อมีคำสั่งใหม่.

Share