แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยขีดฆ่าคำว่า ‘หรือผู้ถือ’ ในเช็คฉบับพิพาทออก และเขียนคำว่า ‘สด’ ลงในช่องผู้รับเงิน การกระทำของจำเลยดังกล่าวจำเลยย่อมทราบอยู่แล้วว่าธนาคารตามเช็คจะปฏิเสธการจ่ายเงิน จึงแสดงให้เห็นได้ชัดเจนว่าจำเลยมีเจตนาที่จะไม่ให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็คฉบับพิพาท การกระทำของจำเลยเป็นการออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คซึ่งเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติ ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3(1).
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3(1) จำคุก1 ปี จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 8 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ‘เช็คฉบับพิพาทจำเลยขีดฆ่าคำว่า ‘หรือผู้ถือ’ ออกแล้วเขียนคำว่า ‘สด’ ลงในช่องผู้รับเงิน อันเป็นเหตุให้ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินโดยอ้างว่าเขียนเช็คสั่งจ่ายไม่ถูกต้อง การกระทำของจำเลยจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 มาตรา 3 หรือไม่ เห็นว่าการกระทำของจำเลยดังกล่าวจำเลยย่อมทราบล่วงหน้าอยู่แล้วว่าธนาคารตามเช็คจะปฏิเสธการจ่ายเงิน จึงแสดงให้เห็นได้ชัดว่าจำเลยมีเจตนาที่จะไม่ให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็คฉบับพิพาท การกระทำของจำเลยจึงเป็นการออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3(1) คดีไม่ต้องพิจารณาถึงเหตุที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเพราะเหตุอื่นต่อไปคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกาฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น’
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.