คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6055/2534

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

สุราของกลางที่จำเลยซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับใบอนุญาตขายสุราได้ซื้อไว้จากผู้ที่ไม่มีสิทธิขายโดยชอบด้วยกฎหมายอันเป็นการฝ่าฝืนพ.ร.บ. สุรา พ.ศ. 2493 มาตรา 40 ทวิ นั้น ตาม พ.ร.บ. สุรา พ.ศ. 2493มาตรา 45 มิได้บัญญัติให้ริบสุราของกลาง ทั้งสุราของกลางดังกล่าวก็มิใช่ทรัพย์สินที่กฎหมายบัญญัติว่าผู้ใดทำหรือมีไว้เป็นความผิดหรือเป็นทรัพย์สินซึ่งบุคคลได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำผิดหรือได้มาโดยได้กระทำความผิดอันจะเป็นเหตุให้ศาลพิพากษาให้ริบเสียได้ตาม ป.อ. มาตรา 32,33.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้อง ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493มาตรา 4, 40 ทวิ, 45 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสุรา(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2497 มาตรา 8 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33และริบของกลางเป็นของกรมสรรพสามิต
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติสุราพ.ศ. 2493 มาตรา 40 ทวิ ลงโทษปรับ 200 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 และริบสุราของกลางเป็นของกรมสรรพสามิต
จำเลยอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลยเฉพาะข้อที่โต้แย้งว่า การริบของกลางไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่ริบสุราของกลาง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีคงมีปัญหาข้อกฎหมายตามฎีกาของโจทก์ว่า การที่จำเลยซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับใบอนุญาตขายสุราได้ซื้อสุราของกลางไว้จากผู้ที่ไม่มีสิทธิขายโดยชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 มาตรา 40 ทวิ นั้น สุราของกลางเป็นสิ่งของที่จะต้องริบ ตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 มาตรา 45และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33 หรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่าพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ.2493 มาตรา 45 มิได้บัญญัติให้ริบสุราที่มีการซื้อโดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติ มาตรา 40 ทวิ และเป็นที่เห็นได้ว่ามีความประสงค์ที่จะให้ริบสุราที่มีการซื้อฝ่าฝืนต่อกฎหมายในกรณีเช่นนี้แต่อย่างใด ทั้งสุราของกลางรายนี้ก็มิได้ใช่ทรัพย์สินที่กฎหมายบัญญัติว่า ผู้ใดทำหรือมีไว้เป็นความผิดหรือเป็นทรัพย์สิน ซึ่งบุคคลได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำผิดหรือได้มาโดยได้กระทำความผิดอันจะเป็นเหตุให้ศาลพิพากษาให้ริบเสียได้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33…”
พิพากษายืน.

Share