แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ขณะจำเลยสำรวจที่ดินเพื่อเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่กิ่งอำเภอบ้านฉางอำเภอเมืองระยอง และอำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยองพ.ศ. 2525 ที่ดินพิพาทซึ่งอยู่ในแนวเขตที่จะถูกเวนคืนด้วยมีชื่อบ. เป็นเจ้าของ เมื่อสำรวจเสร็จได้มีพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่ตำบลห้วยโป่งและตำบลมาบตาพุดอำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง พ.ศ. 2527 ออกใช้บังคับ โดยระบุชื่อบ. เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินพิพาทท้ายพระราชบัญญัติดังกล่าว ทั้งที่โจทก์ได้ซื้อที่ดินพิพาทมาจาก บ. ก่อนแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2526 พระราชบัญญัติฉบับนี้จึงมีเจตนารมณ์ มุ่งบังคับเอาแก่ที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์อย่างอื่นซึ่งอยู่ในแนวเขตที่จะต้องเวนคืนโดยเฉพาะ หาได้ถือเอาตัวบุคคลผู้เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองเป็นสาระสำคัญไม่เหตุที่ให้ระบุชื่อเจ้าของหรือผู้ครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายไว้ ก็เพื่อประโยชน์ในการจ่ายหรือวางเงินค่าทดแทนเท่านั้น ดังนั้นแม้จะไม่ปรากฏชื่อโจทก์เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินพิพาทท้ายพระราชบัญญัติเวนคืนดังกล่าว ก็หามีผลทำให้ที่ดินพิพาทไม่อยู่ภายใต้บังคับที่จะถูกเวนคืนตามพระราชบัญญัติดังกล่าวไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ในบัญชีท้ายพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่ตำบลห้วยโป่งและตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยองจังหวัดระยอง พ.ศ. 2527 ไม่มีชื่อโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้ครอบครองที่ดินพิพาทที่จะถูกเวนคืน จำเลยจึงไม่มีสิทธิดำเนินการเวนคืนที่ดินของโจทก์ ขอให้ห้ามจำเลยและบริวารเข้ายุ่งเกี่ยวกับที่ดินพิพาทของโจทก์
จำเลยให้การว่า ที่ดินพิพาทอยู่ในแนวเขตการเวนคืนตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่กิ่งอำเภอบ้านฉาง อำเภอเมืองระยองและอำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยองพ.ศ. 2525 และพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่ตำบลห้วยโป่ง และตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยองจังหวัดระยอง พ.ศ. 2527 แม้จะยังคงมีชื่อบุคคลอื่นเป็นเจ้าของทั้งที่โจทก์ได้ซื้อที่ดินพิพาทจากบุคคลนั้นไปแล้วก็ไม่ทำให้ที่ดินพิพาทของโจทก์ไม่ต้องตกอยู่ในบังคับการเวนคืนตามพระราชบัญญัติดังกล่าว จำเลยจึงมีสิทธิเข้าดำเนินการเพื่อเวนคืนที่ดินพิพาทได้ขอให้ยกฟ้อง
ในวันสืบพยานคู่ความแถลงรับข้อเท็จจริงว่า ก่อนมีพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่ตำบลห้วยโป่งและตำบลมาบตาพุดอำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง พ.ศ. 2527 ได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่กิ่งอำเภอบ้านฉางอำเภอเมืองระยอง และอำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยองพ.ศ. 2525 กำหนดแนวเขตบริเวณที่ดินที่จะทำการสำรวจเพื่อเวนคืนโดยมีจำเลยเป็นผู้สำรวจที่ดิน และขณะสำรวจที่ดินพิพาทมีชื่อนางบรรจง เกตุษา เป็นเจ้าของ เมื่อสำรวจเสร็จแล้วได้มีพระราชบัญญัติเวนคืนดังกล่าวออกใช้บังคับโดยระบุชื่อนางบรรจง เกตุษา เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินพิพาทนี้ในบัญชีท้ายพระราชบัญญัติ และที่ดินพิพาทอยู่ในแนวเขตที่ดินที่เวนคืนด้วย ซึ่งที่ดินพิพาทนี้โจทก์ได้ซื้อมาจากนางบรรจง เกตุษา เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2526 และในขณะที่โจทก์ได้ซื้อที่ดินมาจากนางบรรจง เกตุษา นั้น จำเลยไม่ได้แจ้งให้เจ้าพนักงานที่ดินห้ามจดทะเบียนโอนที่ดินในแนวเขตบริเวณที่ดินที่เวนคืน เมื่อคู่ความแถลงรับข้อเท็จจริงดังกล่าวศาลเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้แล้ว จึงให้งดสืบพยาน
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติตามคำฟ้องคำให้การและที่คู่ความแถลงรับกันว่า ในปี พ.ศ. 2525 ได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่กิ่งอำเภอบ้านฉาง อำเภอเมืองระยอง และอำเภอเมืองระยองจังหวัดระยอง พ.ศ. 2525 กำหนดแนวเขตบริเวณที่ดินที่จะทำการสำรวจเพื่อเวนคืน โดยมีจำเลยเป็นผู้สำรวจที่ดิน และขณะสำรวจนั้น ที่ดินพิพาทมีชื่อนางบรรจง เกตุษา เป็นเจ้าของเมื่อสำรวจเสร็จแล้วได้มีพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่ตำบลห้วยโป่งและตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง พ.ศ. 2527ออกใช้บังคับโดยระบุชื่อนางบรรจง เกตุษา เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินพิพาทท้ายพระราชบัญญัติดังกล่าวและที่ดินพิพาทอยู่ในแนวเขตที่ดินที่เวนคืนด้วย โจทก์ซื้อที่ดินพิพาทมาจากนางบรรจงเกตุษา เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2526 ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยมีว่าที่ดินพิพาทอยู่ในบังคับที่จะต้องเวนคืนตามพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่ตำบลห้วยโป่ง และตำบลมาบตาพุดอำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง พ.ศ. 2527 หรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า ความมุ่งหมายตามพระราชบัญญัติเวนคืนดังกล่าวได้ระบุไว้ชัดว่าให้เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่ตำบลห้วยโป่งและตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ซึ่งจำเลยได้ทำการสำรวจที่ดินที่จะต้องเวนคืนเสร็จแล้วโดยอาศัยอำนาจตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่กิ่งอำเภอบ้านฉาง อำเภอเมืองระยอง และอำเภอเมืองระยองจังหวัดระยอง พ.ศ. 2525 ขณะทำการสำรวจนั้นมีชื่อนางบรรจงเกตุษา เป็นเจ้าของผู้ครอบครองที่ดินพิพาท จึงได้มีชื่อนางบรรจงเกตุษาเป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินพิพาทอยู่ในบัญชีรายชื่อท้ายพระราชบัญญัติเวนคืนดังกล่าวซึ่งประกาศใช้ในภายหลัง เหตุที่ไม่มีชื่อโจทก์เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินพิพาทในบัญชีรายชื่อท้ายพระราชบัญญัติเวนคืนดังกล่าวซึ่งประกาศใช้ในภายหลังก็เนื่องมาจากไม่มีผู้ใดแจ้งให้จำเลยทราบว่านางบรรจงได้โอนที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ในเวลาต่อมา พระราชบัญญัติเวนคืนดังกล่าวออกใช้บังคับโดยระบุที่ดินพิพาทอยู่ภายในแนวเขตที่ดินที่ต้องเวนคืนท้ายพระราชบัญญัติดังกล่าว จึงเห็นได้ว่ามีเจตนารมณ์ มุ่งบังคับเอาแก่ที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์อย่างอื่นโดยเฉพาะ หาได้ถือเอาตัวบุคคลผู้เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองเป็นสาระสำคัญไม่ เหตุที่ให้ระบุชื่อเจ้าของหรือผู้ครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายไว้ ก็เพื่อประโยชน์ในการจ่ายหรือวางเงินค่าทดแทนเท่านั้น ดังนั้นแม้จะไม่ปรากฏชื่อโจทก์เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินพิพาทท้ายพระราชบัญญัติเวนคืนดังกล่าว ก็หามีผลทำให้ที่ดินพิพาทไม่อยู่ภายใต้บังคับที่จะถูกเวนคืน ตามพระราชบัญญัติดังกล่าวไม่
พิพากษายืน