แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ขณะที่จำเลยยิงผู้ตายทั้งสอง ผู้ตายทั้งสองอยู่ด้วยกันในห้องนอน จำเลยยิงนายล.ก่อนแล้วจึงยิงนาง น. จำเลยยอมรับว่าจำเลยยิงนาย ล. 2 นัด แล้วจึงยิงนางน. 1 นัด แสดงว่าในการยิงปืนแต่ละนัดความประสงค์และจุดมุ่งหมายของจำเลยได้แยกออกจากกันว่ากระสุนนัดใดจำเลยยิงผู้ตายคนใด เจตนาฆ่าผู้ตายทั้งสองในขณะจำเลยลงมือกระทำความผิดจึงแยกออกจากกันได้ ความต้องการให้ผู้ตายทั้งสองถึงแก่ความตายแม้จะเกิดขึ้นในใจของจำเลยพร้อม ๆ กันและต่อเนื่องกับการลงมือกระทำความผิดก็มิใช่เจตนาในขณะที่จำเลยลงมือกระทำความผิด การกระทำความผิดของจำเลยจึงเป็นความผิดสองกรรม
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้กระทำผิดกฎหมายหลายกรรมต่างกัน กล่าวคือจำเลยได้ใช้อาวุธปืนเล็กกล (เอ็ม 16) ขนาด .223 ยิงประทุษร้ายนายเล็ก แซ่ลิ้ม จำนวน 2 นัด โดยเจตนาฆ่า กระสุนปืนถูกบริเวณหน้าอกขวาและท้องด้านซ้าย เป็นเหตุให้นายเล็ก แซ่ลิ้ม ถึงแก่ความตายและจำเลยได้ใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงประทุษร้ายนางนวลหรือแวว รักดี จำนวน 1 นัด โดยเจตนาฆ่ากระสุนปืนถูกบริเวณขมับขวาทะลุขมับซ้าย เป็นเหตุให้นางนวลหรือแวว รักดี ถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 91, 288และริบของกลาง
จำเลยให้การว่า ได้ใช้อาวุธปืนยิงนายเล็ก แซ่ลิ้ม กับนางนวลหรือแวว รักดี ถึงแก่ความตายจริง เนื่องจากผู้ตายกระทำการข่มเหงทางจิตใจจำเลยอย่างร้ายแรง เป็นเหตุให้จำเลยบันดาลโทสะจึงใช้อาวุธปืนยิงคนทั้งสองถึงแก่ความตาย
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 91 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน จึงให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปฐานฆ่านายเล็ก แซ่ลิ้ม จำคุก 20 ปี ฐานฆ่านางนวลหรือแวว รักดีจำคุก 20 ปีรวมจำคุก 40 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงให้จำคุกจำเลยไว้ 20 ปี ของกลางให้ริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิจารณาแล้วพิพากษาแก้เป็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90ให้จำคุก 20 ปี ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสี่ คงจำคุกจำเลย 15 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา ขอให้เรียงกระทงลงโทษจำเลยฐานฆ่านายเล็ก แซ่ลิ้มและฐานฆ่านางนวลหรือแวว รักดี อันเป็นความผิดสองกรรม
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงตามที่โจทก์จำเลยนำสืบฟังได้ว่าขณะจำเลยยิงผู้ตายทั้งสองนั้น ผู้ตายทั้งสองอยู่ด้วยกันในห้องนอนของนางนวล จำเลยยิงนายเล็กก่อนแล้วจึงยิงนางนวล จำเลยยอมรับว่า จำเลยยิงนายเล็ก 2 นัด และยิงนางนวล 1 นัดแสดงว่าในการยิงปืนแต่ละนัดความประสงค์และจุดมุ่งหมายในการยิงของจำเลยได้แยกออกจากกันว่ากระสุนนัดใดจำเลยยิงผู้ตายคนใด เจตนาฆ่าผู้ตายทั้งสองในขณะจำเลยลงมือกระทำความผิดจึงแยกออกจากกันได้ ความต้องการให้ผู้ตายทั้งสองถึงแก่ความตายแม้จะเกิดขึ้นในใจของจำเลยพร้อม ๆ กันและต่อเนื่องกับการลงมือกระทำความผิดก็มิใช่เจตนาในขณะที่จำเลยลงมือกระทำความผิด การกระทำความผิดของจำเลยจึงเป็นความผิดสองกรรม
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น