คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5238/2534

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ผู้ร้องจดทะเบียนในประเทศไทย มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทยต้องถือว่าเป็นเจ้าหนี้ที่อยู่ในราชอาณาจักร แม้กรรมการผู้มีอำนาจของผู้ร้องได้เดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรชั่วคราวในเวลาที่ผู้ร้องจะต้องยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย ก็ไม่ทำให้ภูมิลำเนาของผู้ร้องเปลี่ยนไป ผู้ร้องยังคงเป็นเจ้าหนี้ที่อยู่ในราชอาณาจักรเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่มีอำนาจขยายกำหนดเวลาขอรับชำระหนี้ให้ผู้ร้องได้.

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลย(ลูกหนี้) เด็ดขาด ผู้ร้องยื่นคำขอรับชำระหนี้พร้อมกับยื่นคำร้องขอขยายกำหนดเวลาขอรับชำระหนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เห็นว่าผู้ร้องมิได้เป็นเจ้าหนี้ที่อยู่นอกราชอาณาจักร จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ไต่สวนและกลับคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์คัดค้าน ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงได้ความว่า ศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2531เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์โฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้วครบกำหนดยื่นคำขอรับชำระหนี้ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2532 ต่อมาเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2532 ผู้ร้องซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทยได้ยื่นคำร้องขอขยายกำหนดเวลาขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ โดยอ้างว่ากรรมการผู้มีอำนาจของผู้ร้องเดินทางไปต่างประเทศชั่วคราวเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2532 และกลับเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2532 เป็นเหตุให้ผู้ร้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ไม่ทันภายในกำหนด แต่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สั่งยกคำร้องปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องมีว่า คำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ไม่ขยายกำหนดเวลาขอรับชำระหนี้ให้ผู้ร้องชอบหรือไม่เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 91ได้กำหนดให้เจ้าหนี้ซึ่งจะขอรับชำระหนี้ต้องยื่นคำขอต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในกำหนดสองเดือนนับแต่วันโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดโดยให้อำนาจแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่จะขยายกำหนดเวลาดังกล่าวได้อีกไม่เกินสองเดือนเฉพาะแก่เจ้าหนี้ที่อยู่นอกราชอาณาจักรเท่านั้น แต่ผู้ร้องซึ่งจดทะเบียนในประเทศไทยมีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย ต้องถือว่าเป็นเจ้าหนี้ที่อยู่ในราชอาณาจักรแม้กรรมการผู้มีอำนาจของผู้ร้องได้เดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรชั่วคราวในช่วงเวลาดังกล่าว ก็ไม่ทำให้ภูมิลำเนาของผู้ร้องเปลี่ยนไป ผู้ร้องยังคงเป็นเจ้าหนี้ที่อยู่ในราชอาณาจักรเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่มีอำนาจขยายกำหนดเวลาขอรับชำระหนี้ให้ผู้ร้องได้ คำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ให้ยกคำร้องของผู้ร้องชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยกับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์…”
พิพากษายืน.

Share