คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4256/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเอารถยนต์ของกลางของผู้เสียหายไปไว้ในครอบครองของจำเลยในฐานะผู้ค้ำประกันในการเช่าซื้อซึ่งภริยาจำเลยเช่าซื้อไปจากผู้เสียหาย และรถยนต์ของกลางยังคงอยู่ในครอบครองของจำเลยตลอดมา จำเลยมีหน้าที่จะต้องชำระเงินค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระและมีหน้าที่จะต้องส่งคืนรถยนต์ของกลางแก่ผู้เสียหาย การที่จำเลยเอารถยนต์ของกลางไปขับรับจ้างขนส่งผู้โดยสารในต่างจังหวัดและยังไม่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว ผู้เสียหายชอบที่จะบังคับเอาทางแพ่งได้ การกระทำของจำเลยยังไม่เป็นการเบียดบังทรัพย์อันจะเป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ตามฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นผู้ครอบครองรถยนต์กระบะของห้างหุ้นส่วนจำกัดโตโยต้าอุบลราชธานี ผู้เสียหาย จำเลยได้เบียดบังเอารถยนต์คันดังกล่าวเป็นของจำเลย โดยนำออกขับรับจ้างขนส่งผู้โดยสารหารายได้ แล้วนำไปเป็นประโยชน์ส่วนตน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 และคืนของกลางแก่เจ้าของ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 จำคุก 1 ปี คำให้การชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้หนึ่งในสี่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 9 เดือน ของกลางคืนเจ้าของ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ตามที่คู่ความนำสืบรับกันว่าจำเลยเป็นผู้ค้ำประกันการเช่าซื้อรถยนต์ของกลางซึ่งนางสำรวย ภูทอง ภริยาของจำเลยเช่าซื้อไปจากผู้เสียหาย แล้วผิดสัญญาเช่าซื้อจนผู้เสียหายยึดรถยนต์ของกลางกลับคืน จำเลยในฐานะผู้ค้ำประกันได้นำเงินไปชำระให้ผู้เสียหายบางส่วนแล้วขอรับรถยนต์ของกลางไปจากผู้เสียหายตามสัญญาเช่าซื้อเดิม โดยจำเลยให้คำรับรองแก่ผู้เสียหายว่าจะนำเงินที่ค้างชำระทั้งหมดไปชำระแก่ผู้เสียหายในกำหนด 15 วัน เมื่อถึงกำหนดดังกล่าวจำเลยไม่นำเงินไปชำระ จำเลยเอารถยนต์ของกลางไปขับรับจ้างขนส่งผู้โดยสารที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เห็นว่า จำเลยเอารถยนต์ของกลางของผู้เสียหายไปไว้ในครอบครองของจำเลยในฐานะผู้ค้ำประกันในการเช่าซื้อซึ่งภริยาของจำเลยเช่าซื้อไปจากผู้เสียหาย และรถยนต์ของกลางยังคงอยู่ในครอบครองของจำเลยตลอดมา จำเลยมีหน้าที่จะต้องชำระเงินค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระ และมีหน้าที่จะต้องส่งคืนรถยนต์ของกลางแก่ผู้เสียหาย การที่จำเลยยังไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ดังกล่าวผู้เสียหายชอบที่จะบังคับเอาในทางแพ่งได้ การกระทำของจำเลยยังไม่เป็นการเบียดบังทรัพย์อันจะเป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ตามฟ้อง ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษามาชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share