คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4010/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าพนักงานประเมินออกหมายเรียกสำหรับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของโจทก์ ปี พ.ศ. 2516 ซึ่งโจทก์มีหน้าที่ยื่นรายการเกี่ยวกับเงินได้พึงประเมินภายในเดือนมีนาคม 2517 ซึ่งเมื่อนับตั้งแต่วันที่โจทก์ได้ยื่นรายการจนถึงวันที่เจ้าพนักงานออกหมายเรียกแล้วเป็นเวลาเกินกว่า 5 ปี การออกหมายเรียกจึงไม่ชอบด้วยมาตรา 19 แห่งประมวลรัษฎากร การประเมินของเจ้าพนักงานจึงเป็นการกระทำโดยปราศจากอำนาจศาลชอบที่จะเพิกถอนการประเมินภาษีเงินได้ของโจทก์ ปี พ.ศ. 2516เสียได้ ส่วนภาษีการค้าซึ่งต้องยื่นแบบแสดงรายการการค้าเป็นรายเดือนภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไปตามประมวลรัษฎากร มาตรา 84และ 85 ทวิ นั้นปรากฏว่า โจทก์ยื่นแบบแสดงรายการการค้าขาดไปเกินกว่าร้อยละ 25 ของยอดรายรับที่แสดงในแบบแสดงรายการการค้าเจ้าพนักงานประเมินจึงมีอำนาจทำการประเมินได้ภายในกำหนดเวลา 10 ปีนับแต่วันสุดท้ายแห่งกำหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการการค้าตามมาตรา88 ทวิ(2) การประเมินดังกล่าวจึงไม่เกินกำหนดเวลาตามกฎหมาย.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการประเมินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของโจทก์ ปี พ.ศ.2516-2520 ตามหนังสือลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์2527 และ 29 มิถุนายน 2527 การประเมินภาษีการค้าของโจทก์เดือนกุมภาพันธ์ 2517 ถึงเดือนธันวาคม 2520 ตามหนังสือลงวันที่27 กุมภาพันธ์ 2527 และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ลงวันที่ 25 พฤษภาคม 2531
จำเลยทั้งห้าให้การว่า การประเมินของเจ้าพนักงานประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ชอบด้วยกฎหมายแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลภาษีอากรกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เจ้าพนักงานประเมินออกหมายเรียกลงวันที่17 มกราคม 2523 ตามเอกสารหมาย ล.1 แผ่นที่ 356 สำหรับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของโจทก์ปี พ.ศ. 2516 ซึ่งโจทก์มีหน้าที่ยื่นรายการเกี่ยวกับเงินได้พึงประเมินภายในเดือนมีนาคม 2517เจ้าพนักงานประเมินเห็นว่าโจทก์ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีในปีดังกล่าวไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง จึงมีการออกหมายเรียกตามเอกสารหมาย ล.1 แผ่นที่ 356 ไป ซึ่งเมื่อนับตั้งแต่วันที่โจทก์ได้ยื่นรายการจนถึงวันที่เจ้าพนักงานประเมินออกหมายเรียกแล้วเป็นเวลาเกินกว่าห้าปีการออกหมายเรียกโจทก์มาไต่สวนสำหรับภาษีเงินได้ปี พ.ศ. 2516 จึงไม่ชอบด้วยมาตรา 19 แห่งประมวลรัษฎากรการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินจึงเป็นการกระทำโดยปราศจากอำนาจ ชอลที่ศาลจะเพิกถอนการประเมินภาษีเงินได้ของโจทก์ปีพ.ศ.2516 เสียได้ ส่วนภาษีเงินได้ปี พ.ศ. 2517-2520 เจ้าพนักงานประเมินออกหมายเรียกภายในเวลาห้าปีนับแต่วันที่โจทก์ได้ยื่นรายการการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินสำหรับภาษีเงินได้ปี พ.ศ.2517-2520จึงชอบแล้วสำหรับภาษีการค้าซึ่งต้องยื่นแบบแสดงรายการการค้าเป็นรายเดือนภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไปตามประมวลรัษฎากร มาตรา 84และ 85 ทวิ นั้น ปรากฎตามแบบแจ้งการประเมินภาษีการค้าสำหรับเดือนกุมภาพันธ์ 2517 ถึงเดือนธันวาคม 2520 ฉบับลงวันที่27 กุมภาพันธ์ 2527 ว่า โจทก์ยื่นแบบแสดงรายการการค้าขาดไปเกินกว่าร้อยละยี่สิบห้าของยอดรายรับที่แสดงในแบบแสดงรายการการค้า เจ้าพนักงานประเมินจึงมีอำนาจทำการประเมินได้ภายในกำหนดเวลาสิบปีนับแต่วันสุดท้ายแห่งกำหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการการค้าตามมาตรา 88 ทวิ(2) แห่งประมวลรัษฎากร การประเมินของเจ้าพนักงานประเมินสำหรับภาษีการค้าดังกล่าวจึงไม่เกินกำหนดเวลาตามกฎหมายการประเมินภาษีการค้าจึงชอบแล้ว
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้เพิกถอนการประเมินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามหนังสือเลขที่ ต.2/1080/1/05220 ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2527และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เลขที่ 218ก./2531/1 ลงวันที่ 25 พฤษภาคม 2531 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลภาษีอากรกลาง.

Share