แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
เจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินสำหรับทำสวนตาม น.ส.3 เลขที่ 47หมู่ 1 ตำบลตาดทอง ของจำเลยไว้ ขณะยึดทรัพย์ที่ดินดังกล่าวตั้งอยู่หมู่ที่ 9 เมื่อศาลอนุญาตให้ขายทอดตลาดทรัพย์ดังกล่าวแล้วเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ปิดประกาศขายทอดตลาดให้ทราบโดย ทั่วกันและที่ดินที่ระบุว่าเป็นหมู่ 9 เป็นที่ดินแปลงเดียวกับ ที่ดินที่ขายทอดตลาด การเปลี่ยนแปลงหมู่บ้านตามเขตการปกครอง ท้องที่ ฝ่ายบริหารย่อมทำได้ตามความเหมาะสมซึ่งอาจผิดแผกแตกต่าง ไปจากหมู่ที่ที่ดินตั้งอยู่ในขณะออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ การขายทอดตลาดดังกล่าวจึงไม่ใช่การขายทอดตลาดผิดแปลง.
ย่อยาว
คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระหนี้ตามตั๋วเงินพร้อมดอกเบี้ยโจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน ศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมให้จำเลยชำระหนี้ให้โจทก์จำนวน 95,625 บาท พร้อมค่าฤชาธรรมเนียมที่ศาลไม่คืนให้ จำเลยผิดนัดไม่ชำระหนี้ดังกล่าวโจทก์ขอบังคับคดี ต่อมาวันที่ 14 กันยายน 2531 โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดิน ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 47หมู่ที่ 9 ตำบลตาดทอง อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร เพื่อขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ให้โจทก์ ครั้นเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2531วันนัดขายทอดตลาดมีผู้เข้าประมูลจำนวน 4 คน นายยุภพ ไชยจิตรให้ราคาสูงสุดเป็นเงิน 390,000 บาท เจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นว่าเป็นราคาสูงสุด ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ขายแก่นายยุภพ ผู้ให้ราคาสูงสุดตามความเห็นของเจ้าพนักงานบังคับคดี
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นบุตรและเป็นทายาทผู้รับมรดกของจำเลยซึ่งถึงแก่กรรม ในการขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลย ของเจ้าพนักงานบังคับคดี ผู้เข้าสู้ราคาได้สมรู้กันโดยทุจริต จงใจกดราคาให้ต่ำกว่าราคาที่ควรจะขายได้ เพราะที่ดินของจำเลยอยู่ริมถนนห่างจากจังหวัดยโสธร 3 กิโลเมตร หากซื้อขายกันโดยปกติตามท้องตลาดทั่วไปราคาไร่ละ 25,000 บาท การขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งการขายทอดตลาดก็ไม่มีการเคาะไม้ตกลงขายการขายทอดตลาดจึงไม่สมบูรณ์ ที่ดินของจำเลยตั้งอยู่หมู่ที่ 9แต่เจ้าพนักงานประกาศขายที่ดินตั้งอยู่หมู่ที่ 1 เป็นการผิดแปลงกันขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดี
โจทก์และผู้ซื้อทรัพย์ยื่นคำคัดค้านทำนองเดียวกันว่าที่ผู้ร้องอ้างว่าจะมีผู้ซื้อในราคาถึง 700,000 บาท เป็นการกล่าวอ้างลอย ๆ ไม่ปรากฏว่าผู้ร้องได้หาคนมาซื้อแต่อย่างใดการขายทอดตลาดจึงสมบูรณ์ตามกฎหมาย ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ววินิจฉัยว่า ผู้ร้องเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยผู้มรณะ เป็นผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีมีอำนาจร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดได้ การขายทอดตลาดทรัพย์ครั้งนี้ เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการไปโดยชอบด้วยกฎหมายแล้วกรณีจึงไม่มีเหตุที่จะเพิกถอนการขายทอดตลาด ให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…ปัญหามีว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดที่ดินพิพาทผิดแปลงหรือไม่ ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติได้ว่า เจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินสำหรับทำสวนตาม น.ส.3เลขที่ 47 หมู่ที่ 1 ตำบลตาดทอง อำเภอยโสธร (อำเภอเมืองยโสธร)จังหวัดอุบลราชธานี (จังหวัดยโสธร) ของจำเลยไว้ ปรากฏตามภาพถ่ายหนังสือรับรองการทำประโยชน์ เอกสารหมาย ร.1 แต่ขณะยึดทรัพย์ที่ดินดังกล่าวอยู่หมู่ที่ 9 ปรากฏตามบันทึกการยึดทรัพย์และสำเนาประกาศการยึดทรัพย์ของเจ้าพนักงานบังคับคดีฉบับลงวันที่ 14 กันยายน 2531เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขออนุญาตศาลขายทอดตลาดทรัพย์ เมื่อศาลอนุญาตแล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงได้ทำประกาศขายทอดตลาด ลงวันที่26 กันยายน 2531 กำหนดขายทอดตลาดวันที่ 28 ตุลาคม 2531 ซึ่งผู้ร้องเบิกความว่าประกาศขายทอดตลาดของศาลปิดประกาศให้ทราบโดยทั่วกันและที่ดินที่ระบุว่าเป็นหมู่ 9 เป็นที่ดินแปลงเดียวกับที่ดินขายทอดตลาดแสดงว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดที่ดินพิพาทที่ยึดไว้นั่นเองการเปลี่ยนแปลงหมู่บ้านตามเขตการปกครองท้องที่ ฝ่ายบริหารย่อมกระทำได้ตามเหมาะสมซึ่งอาจผิดแผกแตกต่างไปจากหมู่ที่ที่ดินตั้งอยู่ในขณะออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์เอกสาร หมาย ร.1 แต่ก็สามารถโยงยึดตรวจสอบให้รู้ว่าเป็นที่ดินแปลงเดียวกันได้ เมื่อผู้ร้องก็ยอมรับว่าเป็นที่ดินแปลงเดียวกันแล้ว ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดที่ดินที่ยึดไว้ไม่ผิดแปลง…”
พิพากษายืน.