คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2634/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าหนี้ฝากเงินไว้กับลูกหนี้ก่อนที่ลูกหนี้จะถูกธนาคารแห่งประเทศไทยเข้าควบคุมกิจการเป็นเวลาหลายเดือน และก่อนที่ลูกหนี้จะถูกฟ้องเป็นคดีล้มละลายหรือถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดดังนั้น แม้เจ้าหนี้จะเป็นภริยาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของกรรมการคนหนึ่งของลูกหนี้ และเจ้าหนี้มิได้ถอนเงินจากลูกหนี้ในช่วงเวลานั้นก็ตามจะถือว่าเจ้าหนี้ยอมให้ลูกหนี้ก่อหนี้ขึ้นทั้ง ๆที่รู้อยู่ว่า ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวไม่ได้ เจ้าหนี้มีสิทธิขอรับชำระหนี้ได้ ไม่ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 94.

ย่อยาว

คดีนี้มูลกรณีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้ไว้เด็ดขาด เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินพร้อมดอกเบี้ยเป็นเงิน 17,197,916 บาท จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้นัดให้บรรดาเจ้าหนี้และลูกหนี้ตรวจคำขอรับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 104แล้ว เจ้าหนี้รายที่ 299 โต้แย้งว่า เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิขอรับชำระหนี้เนื่องจากตั๋วสัญญาใช้เงินที่เจ้าหนี้นำมาขอรับชำระหนี้นั้นเป็นหนี้สมยอมก่อขึ้น โดยเจตนาคบคิดกันฉ้อฉลระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนแล้ว เห็นว่า มูลหนี้ดังกล่าวต้องห้ามมิให้ขอรับชำระหนี้ตามมาตรา 94 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 เห็นควรให้ยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้รายนี้เสียทั้งสิ้นตามมาตรา 107(1) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำขอรับชำระหนี้รายนี้เสีย ตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
เจ้าหนี้อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ อนุญาตให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้จำนวน 13,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 107(2), 130(8)
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พิเคราะห์แล้ว ที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ฎีกาว่า เจ้าหนี้เป็นภริยาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของนายสุสุทธิ์ วิจิตรานนท์ ซึ่งเป็นกรรมการคนหนึ่งของลูกหนี้ ย่อมน่าจะทราบดีว่า ในปี พ.ศ. 2527 ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว ผู้ฝากเงินและผู้ทรงตั๋วสัญญาใช้เงินได้พากันถอนเงินจากลูกหนี้เป็นจำนวนมาก จนธนาคารแห่งประเทศไทยต้องเข้าควบคุมกิจการ การที่เจ้าหนี้รู้ว่า ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวยังยอมฝากเงินกับลูกหนี้ จึงเป็นหนี้ซึ่งเจ้าหนี้ยอมให้ลูกหนี้กระทำขึ้นเมื่อเจ้าหนี้ได้รู้ถึงการที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว ย่อมไม่มีสิทธิขอรับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 94 นั้น ได้ความว่า ขณะที่เจ้าหนี้ฝากเงินกับลูกหนี้ นั้นเป็นเวลาหลายเดือนก่อนที่ลูกหนี้จะถูกธนาคารแห่งประเทศไทยเข้าควบคุมกิจการทั้งในขณะนั้นลูกหนี้ยังไม่ได้ถูกฟ้องเป็นคดี หรือมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด และธนาคารแห่งประเทศไทยก็ยังไม่ได้เข้าควบคุมกิจการของลูกหนี้ แม้เจ้าหนี้จะเป็นภริยาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของกรรมการคนหนึ่งของลูกหนี้ และมิได้ถอนเงินจากลูกหนี้ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว แต่ตามพฤติการณ์ที่ปรากฏก็ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะฟังว่า เจ้าหนี้ได้ยอมให้ลูกหนี้ก่อหนี้ขึ้นทั้ง ๆที่รู้อยู่ว่า ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว ที่ศาลอุทธรณ์เห็นว่าเจ้าหนี้มีสิทธิขอรับชำระหนี้ได้ไม่ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 94 นั้น ชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยฎีกาของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น เช่นกัน
พิพากษายืน.

Share