คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1360/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีเพราะเหตุที่คู่ความทั้งสองฝ่ายขาดนัดพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 200 การที่โจทก์ร้องขอให้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปหรือขอให้ศาลนัดสืบพยานจำเลยต่อไป โดยอ้างเหตุว่าโจทก์ไม่จงใจขาดนัดก็คือการขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่นั่นเอง คำว่า “ขาดนัดพิจารณา” ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 200 ต้องถือตามมาตรา 197 วรรคสอง ถ้าคู่ความไม่มาศาลในวันสืบพยานโดยมิได้ขอเลื่อนคดีหรือแจ้งเหตุขัดข้องเสียก่อนลงมือสืบพยานมาตรา 197 วรรคสอง ให้ถือว่าคู่ความฝ่ายนั้นขาดนัดพิจารณาโดยไม่มีข้อที่ศาลจะต้องพิจารณาว่าคู่ความฝ่ายนั้นขาดนัดพิจารณาโดยจงใจหรือไม่ เพราะการขาดนัดโดยจงใจหรือไม่ จะกล่าวอ้างได้เฉพาะเมื่อมีการพิจารณาฝ่ายเดียวและมีการขอให้พิจารณาคดีใหม่เท่านั้น เมื่อโจทก์และจำเลยขาดนัดพิจารณาตามมาตรา 197 วรรคสองและศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีตามมาตรา 200 เสร็จสิ้นไปแล้วย่อมไม่มีการพิจารณาฝ่ายเดียวอันจะทำให้โจทก์มีสิทธิขอให้พิจารณาคดีใหม่ได้ สิทธิของโจทก์มีอยู่ทางเดียวตามมาตรา 200 วรรคสอง คือฟ้องคดีใหม่ภายในอายุความเท่านั้น.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยที่ 1 ในฐานะผู้เช่าซื้อ จำเลยที่ 2ที่ 3 ในฐานะผู้ค้ำประกันให้ร่วมกันรับผิดชำระค่าเสียหายตามสัญญาเช่าซื้อ ให้จำเลยที่ 1 ส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนในสภาพเรียบร้อยใช้การได้ หากไม่คืนให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ราคา
จำเลยทั้งสามขาดนัดยื่นคำให้การ
ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์ที่ 8 ธันวาคม 2530 เวลา 9 นาฬิกาเมื่อถึงวันนัดโจทก์และจำเลยทั้งสามไม่มาศาล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
วันที่ 9 ธันวาคม 2530 โจทก์ยื่นคำร้องว่า มิได้เจตนาจะละทิ้งคดี แต่เพราะเชื่อโดยสุจริตใจว่า คดีนี้นัดสืบพยานโจทก์วันที่9 ธันวาคม 2530 เวลา 8.30 นาฬิกา ตามหลักฐานสมุดนัดความและปกหน้าสำนวนของโจทก์ ตลอดจนบัญชีระบุพยานของโจทก์ที่ลงวันเวลานัดไว้ขอให้ศาลชั้นต้นยกคดีของโจทก์ชั้นพิจารณาใหม่ต่อไป
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ศาลได้ดำเนินการทุกอย่างถูกต้องตามกระบวนความแล้ว ไม่มีเหตุที่จะต้องไต่สวนและเพิกถอนคำสั่งว่าด้วยการผิดระเบียบ จึงไม่ทำการไต่สวน ให้ยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งว่า “โจทก์ขาดนัดพิจารณาให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ” เป็นเรื่องที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความเพราะเหตุที่คู่ความทั้งสองฝ่ายขาดนัดพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 200 การที่โจทก์ร้องขอให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปหรือขอให้ศาลนัดสืบพยานจำเลยต่อไป โดยอ้างเหตุว่า โจทก์ไม่จงใจขาดนัดก็คือการขอ ให้ศาลพิจารณาคดีใหม่นั่นเอง และคำว่า “ขาดนัดพิจารณา”ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 200 ต้องถือตามมาตรา197 วรรคสอง ถ้าคู่ความไม่มาศาลในวันสืบพยานโดยมิได้ขอเลื่อนคดีหรือแจ้งเหตุขัดข้องเสียก่อนลงมือสืบพยาน มาตรา 197 วรรคสอง ให้ถือว่าคู่ความฝ่ายนั้นขาดนัดพิจารณาโดยไม่มีข้อที่ศาลจะต้องพิจารณาว่าคู่ความฝ่ายนั้นขาดนัดพิจารณาโดยจงใจหรือไม่ เพราะการขาดนัดโดยจงใจหรือไม่จะกล่าวอ้างได้เฉพาะเมื่อมีการพิจารณาฝ่ายเดียวและมีการขอให้พิจารณาคดีใหม่เท่านั้น ดังนั้น เมื่อโจทก์และจำเลยขาดนัดพิจารณาตาม มาตรา 197 วรรคสอง และศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีตามมาตรา 200 เสร็จสิ้นไปแล้ว ย่อมไม่มีการพิจารณาคดีฝ่ายเดียวอันจะทำให้โจทก์มีสิทธิขอให้พิจารณาคดีใหม่ได้ สิทธิของโจทก์มีอยู่ทางเดียวตามมาตรา 200 วรรคสอง คือฟ้องคดีใหม่ภายในอายุความเท่านั้น
พิพากษายืน.

Share