แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
นายกเทศมนตรีเป็นเจ้าพนักงานท้องถิ่นเป็นคนละบุคคลกันกับเทศบาลซึ่งเป็นนิติบุคคล การที่ปลัดเทศบาลในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากนายกเทศมนตรีจำเลย ให้โจทก์รื้อถอนอาคาร จึงเป็นคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นมิใช่ของจำเลยแม้คำสั่งจะประทับตราของจำเลยและออกจากสำนักงานของจำเลย ก็หาทำให้คำสั่งดังกล่าวเป็นคำสั่งของจำเลยไม่ ดังนี้ จำเลยจึงมิใช่ผู้ที่โต้แย้งสิทธิของโจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 1945 ตำบลหนองนา อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำเลยเป็นนิติบุคคล มีนายกเทศมนตรีเป็นผู้มีอำนาจกระทำการแทน เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2532 จำเลยโดยนายทวี ธรรมอดิศัย ปลัดเทศบาลตำบลหัวหิน มีคำสั่งที่ ปข 5305/1445 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 42 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ให้โจทก์รื้อถอนอาคารขนาดกว้าง 3.30 เมตร ยาว 5.50 เมตร สูงประมาณ 1.80 เมตร เนื่องจากผิดพระราชบัญญัติผังเมืองรวม ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 59 (พ.ศ. 2531) เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นที่ดินประเภทที่โล่งเพื่อนันทนาการและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมอันเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย กล่าวคือ นายทวี ธรรมอดิศัย มิใช่เจ้าพนักงานท้องถิ่นผู้มีอำนาจออกคำสั่งให้รื้อถอนอาคารตามมาตรา 42 วรรคหนึ่ง และมาตรา 4แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 สิ่งปลูกสร้างดังกล่าวเป็นเพียงปะรำทำด้วยไม้ไผ่ชั้นเดียว มิใช่อาคาร เป็นของนายน้อย เปรมสุข สร้างขึ้นเพื่อใช้นอนเฝ้าปลาชั่วคราว และที่ดินบริเวณดังกล่าวมิใช่ที่ดินประเภทที่โล่งเพื่อนันทนาการ รักษาคุณภาพและสิ่งแวดล้อมในเขตสีเขียวอ่อน แต่เป็นที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลางในเขตสีล้ม สามารถปลูกสร้างได้โดยมิต้องรับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น วันที่ 6 กรกฎาคม 2532 โจทก์ยื่นอุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ต่อมาวันที่ 24 สิงหาคม 2532 ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขชันธ์ในฐานะประธานกรรมการพิจารณาอุทธรณ์มีหนังสือถึงโจทก์ว่า อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้นการที่จำเลยมีคำสั่งและคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์มีความเห็นตามคำสั่งของจำเลย เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นการละเมิดสิทธิโจทก์ทำให้โจทก์เสียหายขอให้พิพากษาเพิกถอนคำสั่งที่ ปข 5305/1445 วันที่ 8 มิถุนายน 2532 เรื่อง คำสั่งให้รื้อถอนอาคาร ตามมาตรา 42 วรรคหนึ่ง (กรณีที่การก่อสร้างดัดแปลงหรือเคลื่อนย้ายอาคาร กระทำโดยไม่ได้รับอนุญาต)
จำเลยให้การว่า คำสั่งของจำเลยชอบด้วยกฎหมาย เพราะนายทวี ธรรมอดิศัยปลัดเทศบาล รับมอบอำนาจจากนายจิระ พงษ์ไพบูลย์ นายกเทศมนตรีตำบลหัวหินซึ่งเป็นเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ให้มีอำนาจออกคำสั่งให้รื้อถอนอาคารตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้ สิ่งปลูกสร้างที่โจทก์อ้างเป็นอาคารตามกฎหมาย ไม่เข้าข้อยกเว้นของกฎหมายที่จะทำการปลูกสร้างได้โดยไม่ต้องได้รับอนุญาต ประกอบกับสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวปลูกอยู่ในเขตพื้นที่สีเขียวอ่อน ซึ่งเป็นที่โล่งเพื่อนันทนาการและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมตามพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. 2518 และตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 59 (พ.ศ. 2531)ออกตามความในพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. 2518 ผังเมืองรวมชุมชนหัวหินโจทก์ยินยอมให้นายน้อย เปรมสุข เป็นผู้ปลูกสร้างอาคารจึงต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลย แล้ววินิจฉัยว่า การสั่งให้รื้อถอนอาคารตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 เป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานท้องถิ่นที่จะออกคำสั่ง การที่เจ้าพนักงานท้องถิ่น คือ นายทวี ธรรมอดิศัย ปลัดเทศบาลหัวหิน มีคำสั่งให้โจทก์รื้อถอนอาคารรายนี้ จึงไม่ใช่คำสั่งของจำเลย จำเลยมิใช่ผู้โต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย พิพากษายกฟ้อง (ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ)
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีคงมีปัญหาตามฎีกาของโจทก์เพียงข้อเดียวว่า จำเลยได้โต้แย้งสิทธิของโจทก์ อันทำให้โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยหรือไม่ ในปัญหาดังกล่าวศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามมาตรา 21, 22, 23 และมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 กำหนดให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นเท่านั้นที่จะมีอำนาจอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ผู้ใดก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคาร บุคคลอื่นหามีอำนาจดังกล่าวไม่ และตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496ก็ไม่มีบทบัญญัติให้เทศบาลซึ่งมีฐานะเป็นนิติบุคคลมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องกับการออกคำสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคารแต่อย่างใด สำหรับ “เจ้าพนักงานท้องถิ่น” นั้น ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคารพ.ศ. 2522 มาตรา 4 หมายความว่า (1) นายกเทศมนตรี สำหรับในเขตเทศบาล ฯลฯซึ่งในคดีนี้ย่อมหมายถึงบุคคลซึ่งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีของจำเลย มิใช่จำเลยซึ่งเป็นคนละบุคคลกัน ฉะนั้นการที่นายทวี ธรรมอดิศัย ปลัดเทศบาลของจำเลยในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากนายกเทศมนตรีของจำเลยออกคำสั่งที่ ปข 5305/1445ลงวันที่ 8 มิถุนายน 2532 ให้โจทก์รื้อถอนอาคาร จึงเป็นคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นมิใช่คำสั่งของจำเลย แม้คำสั่งจะประทับตราของจำเลยและออกจากสำนักงานของจำเลยก็หาทำให้คำสั่งดังกล่าวเป็นคำสั่งของจำเลยไม่ จำเลยจึงมิใช่ผู้โต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย”
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ