คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 99/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

วันเกิดเหตุจำเลยต่อว่าผู้ตายเรื่องผู้ตายทุบตีภรรยาซึ่งเป็นบุตรสาวจำเลย และกล่าวหาผู้ตายว่าลักเงินของจำเลยไปผู้ตายพูดท้าทายแล้วถือมีดขอเข้าไปหาจำเลย พร้อมกับพูดว่าจะเอาอย่างไรก็เอา จะแน่สักแค่ไหน จำเลยร้องห้ามแล้วผู้ตายก็ไม่ฟัง พฤติการณ์ของผู้ตายน่าเชื่อว่าจะใช้มีดขอทำร้ายจำเลยจำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายจึงเป็นการป้องกันตามกฎหมาย แต่เมื่อไม่ปรากฏว่าผู้ตายจะจู่โจมเข้าทำร้ายจำเลย จำเลยอาจเลือกยิงอวัยวะอื่นที่ไม่เป็นอันตรายถึงตายได้ การที่จำเลยยิงผู้ตายที่หน้าอกอันเป็นอวัยวะสำคัญ จึงเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 69.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288และริบอาวุธปืนของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ลงโทษจำคุก 20 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสามแล้วคงลงโทษจำคุกจำเลย 13 ปี 4 เดือน ริบอาวุธปืนของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้ฆ่าผู้ตายจริงและวินิจฉัยว่าคดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 รับฟังข้อเท็จจริงตามคำให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนของจำเลยมาลงโทษจำเลย จึงต้องรับฟังให้ครบถ้วน จำเลยให้การถึงสาเหตุที่ใช้อาวุธปืนซองยาวของกลางยิงผู้ตายว่า วันเกิดเหตุจำเลยได้ต่อว่าผู้ตายที่ทุบตีนางสาครอยู่เสมอและกล่าวหาว่าผู้ตายลักเงินสด 2,000 บาท ไป ผู้ตายพูดท้าทาย จำเลยจึงพูดว่าทำอย่างนี้ก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ เป็นพ่อเป็นลูกกันต่อไปอีกไม่ได้ พอผู้ตายได้ยินก็โกรธพร้อมกับถือมีดขอเดินเข้าไปหาจำเลยพูดว่าจะเอาอย่างไรก็เอาจะแน่สักแค่ไหน จำเลยร้องห้ามว่าอย่าเข้ามาแต่ผู้ตายไม่ยอมฟังเสียงกลับเดินเข้ามา จำเลยจึงใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิงไปที่หน้าอกผู้ตาย 1 นัด ผู้ตายล้มลงและถึงแก่ความตายตามคำให้การดังกล่าวพฤติกรรมของผู้ตายน่าเชื่อว่าจะใช้มีดขอทำร้ายจำเลย จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายจึงเป็นการกระทำโดยป้องกันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 แต่ผู้ตายไม่ได้จู่โจมเข้ามาทำร้ายจำเลย จำเลยอาจจะเลือกยิงอวัยวะอื่นที่ไม่เป็นอันตรายจนถึงตายได้ จำเลยกลับยิงที่หน้าอกของผู้ตายซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญจึงเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 69ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้เพียงใดก็ได้ศาลฎีกาเห็นควรลงโทษสถานเบา
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 68 และ 69 ลงโทษจำคุก 6 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 4 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1.

Share