แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์และโจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยานในชั้นไต่สวนมูลฟ้องไว้แล้ว ทั้งศาลได้ไต่สวนมูลฟ้องจนสั่งคดีมีมูลแล้วนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์ต่อไป ดังนี้ แม้โจทก์จะไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานอีกในชั้นพิจารณาก็ต้องถือว่าโจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยาน สำหรับคดีนี้ตลอดทั้งเรื่องแล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๗๗, ๑๘๑
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ในวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานแต่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับโดยอ้างว่าโจทก์เพิ่งยื่นบัญชีระบุพยานในวันนัดสืบพยานโจทก์ เป็นการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายวิธีพิจารณาความและถือว่าโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานมาสืบพิสูจน์ความผิดของจำเลย พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้เป็นคดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์ และโจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยานในชั้นไต่สวนมูลฟ้องไว้แล้ว, ทั้งศาลก็ได้ทำการไต่สวนมูลฟ้องจนสั่งคดีมีมูลแล้วนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์อีกต่อไป ดังนี้ แม้โจทก์จะไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานอีกในชั้นพิจารณาก็ต้องถือว่าโจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยาน สำหรับคดีนี้ตลอดทั้งเรื่องแล้ว (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ ๙๒๑/๒๔๙๓ และ ๒๘๐/ ๒๕๐๕)
