คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 86/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่ ต. โอนสิทธิเรียกร้องให้โจทก์รับเงินงวดค่าก่อสร้างโจทก์และ ต. แจ้งการโอนสิทธิเรียกร้องไปยังจำเลย จำเลยได้มีหนังสือตอบรับการโอนสิทธิเรียกร้องนั้นแล้ว ต. หมดสิทธิที่จะรับเงินตามสัญญาจ้างทันที จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้มีหน้าที่ต้องชำระหนี้ให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้โดยตรง ต. ไม่มีสิทธิจะมาระงับไม่ให้จำเลยจ่ายเงินให้โจทก์ กรณีเป็นเรื่องจำเลยรู้ตัวเจ้าหนี้ได้แน่นอนแล้ว ไม่ต้องด้วยมาตรา 331 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์โจทก์ชอบที่จะได้รับชำระหนี้จากจำเลยโดยตรง จำเลยไม่อาจบอกปัดความรับผิดโดยให้โจทก์ไปรับจากสำนักงานวางทรัพย์กลางซึ่งโจทก์ไม่อาจรับได้ ถือว่าจำเลยโต้แย้งสิทธิของโจทก์ ตามหนังสือแจ้งการโอนสิทธิเรียกร้องและหนังสือตอบรับทราบการโอนสิทธิเรียกร้อง ระบุว่า ต. ขอโอนสิทธิเรียกร้องการรับเงินจากจำเลยให้โจทก์แต่ผู้เดียว รวมทั้งเงินเพิ่มอื่น ๆอีกด้วย แสดงเจตนาว่าจะโอนสิทธิเรียกร้องในการรับเงินงวดดังกล่าวทั้งหมดซึ่งรวมถึงค่าเดินท่อประปาและค่าติดตั้งเครื่องสูบน้ำด้วย การวางเงินของจำเลย ณ สำนักงานวางทรัพย์กลาง มิใช่วางให้โจทก์รับไป หากแต่วางโดยมีเงื่อนไขให้สำนักงานวางทรัพย์กลางจ่ายให้แก่เจ้าหนี้ที่แท้จริง ไม่ใช่วางเพื่อประโยชน์แก่โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ตามสัญญาโอนสิทธิเรียกร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 331 จำเลยจึงเป็นผู้ผิดนัดต้องเสียดอกเบี้ยตามมาตรา 224

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาบังคับจำเลยชำระเงิน 406,930 บาทให้โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของต้นเงิน 393,805บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การว่า จำเลยจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัดต.ชินรัตน์ก่อสร้างทำการก่อสร้างอาคาร ต่อมาห้างหุ้นส่วนดังกล่าวมีหนังสือแจ้งจำเลยว่าโจทก์มิได้ปฏิบัติตามสัญญาที่ได้ตกลงกันไว้จึงขอยกเลิกการโอนสิทธิเรียกร้องโดยจะรับเงินค่าจ้างเอง ส่วนโจทก์มีหนังสือแจ้งไปยังจำเลยว่าขอให้จำเลยจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่โจทก์ แต่โจทก์มิได้นำใบเสร็จรับเงินของห้างหุ้นส่วนจำกัดต.ชินรัตน์ก่อสร้างไปยื่นต่อจำเลยตามเงื่อนไขซึ่งจำเลยกำหนดไว้ในการแจ้งการโอนสิทธิเรียกร้อง จึงเกิดปัญหาแก่จำเลยว่าระหว่างห้างหุ้นส่วนจำกัดต.ชินรัตน์ก่อสร้างผู้รับจ้างกับโจทก์ผู้รับโอนสิทธิเรียกร้องผู้ใดจะเป็นเจ้าหนี้ที่แท้จริง และมีสิทธิตามกฎหมายที่จะได้รับเงินค่าจ้างจากจำเลย เป็นกรณีที่จำเลยไม่สามารถหยั่งรู้ถึงสิทธิและตัวเจ้าหนี้ที่แท้จริงได้โดยมิใช่ความผิดของจำเลยจำเลยจึงวางเงินค่าจ้างดังกล่าวไว้ต่อสำนักงานวางทรัพย์กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม แล้วจำนวน 365,315.61 บาทจึงหลุดพ้นจากหนี้ดังกล่าวรวมทั้งดอกเบี้ยที่โจทก์เรียกร้องด้วยจำเลยได้แจ้งการวางทรัพย์ให้โจทก์ทราบแล้ว โจทก์สามารถใช้สิทธิไปขอรับเงินค่าจ้างที่จำเลยวางไว้ ณ สำนักงานวางทรัพย์ได้อยู่แล้วจึงไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน365,315.61 บาทให้โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2528 จนกว่าชำระเสร็จ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัดต.ชินรัตน์ก่อสร้างกู้เงินจากโจทก์ไปจำนวน 420,000 บาท และห้างหุ้นส่วนจำกัด ต.ชินรัตน์ก่อสร้างตกลงโอนสิทธิเรียกร้องในการรับเงินค่าจ้างงวดที่ 3 หรืองวดสุดท้ายที่จะได้รับจากจำเลยตามสัญญาจ้างให้โจทก์ และโจทก์กับห้างหุ้นส่วนจำกัดต.ชินรัตนก่อสร้างได้บอกกล่าวการโอนสิทธิเรียกร้องไปยังจำเลย ซึ่งจำเลยก็ตอบรับทราบการโอนแล้ว ต่อมาเมื่อห้างหุ้นส่วนจำกัด ต.ชินรัตน์ก่อสร้างทำการก่อสร้างตามสัญญางวดที่ 3 แล้วเสร็จ และคณะกรรมการตรวจรับมอบงานของจำเลยได้ตรวจรับมอบงานเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2528โจทก์มีหนังสือแจ้งให้จำเลยชำระเงินค่าจ้างงวดที่ 3 ให้โจทก์แต่ปรากฏว่าห้างหุ้นส่วนจำกัดต.ชินรัตน์ก่อสร้างมีหนังสือแจ้งจำเลยขอยกเลิกการโอนสิทธิการรับเงินที่โอนแก่โจทก์และขอรับเงินเอง จำเลยเห็นว่าเป็นกรณีที่จำเลยไม่สามารถหยั่งรู้ถึงสิทธิและตัวเจ้าหนี้ที่แท้จริงโดยมิใช่ความผิดของจำเลย สิทธิของโจทก์ที่จะรับเงินได้เพียง 365,315.61 บาทจึงนำเงินจำนวนดังกล่าวไปวางณ สำนักงานวางทรัพย์กลาง กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ตามคำแนะนำของกรมอัยการ และวินิจฉัยว่า การที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดต.ชินรัตน์ก่อสร้าง โอนสิทธิเรียกร้องไปให้โจทก์รับเงินค่าก่อสร้างงวดที่ 3 โจทก์และห้างหุ้นส่วนจำกัด ต.ชินรัตน์ก่อสร้างแจ้งการโอนสิทธิเรียกร้องไปยังจำเลย จำเลยได้มีหนังสือตอบรับยินยอมการโอนสิทธิเรียกร้องนั้นแล้ว ห้างหุ้นส่วนจำกัดต.ชินรัตน์ก่อสร้างหมดสิทธิที่จะได้รับเงินตามสัญญาจ้างทันทีจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้มีหน้าที่ต้องชำระหนี้ให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้โดยตรง ห้างหุ้นส่วนจำกัดต.ชินรัตน์ก่อสร้างไม่มีสิทธิจะมาระงับไม่ให้จำเลยจ่ายเงินให้โจทก์ กรณีเป็นเรื่องจำเลยรู้ตัวเจ้าหนี้ได้แน่นอนแล้ว ไม่ต้องด้วยมาตรา 331 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์โจทก์ชอบที่จะได้รับชำระหนี้จากจำเลยโดยตรง จำเลยจะบอกปัดความรับผิดให้โจทก์ไปรับจากสำนักงานวางทรัพย์กลาง ซึ่งโจทก์ไม่อาจรับได้เช่นนี้ ถือว่าจำเลยโต้แย้งสิทธิของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 แล้ว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง ปัญหาว่าโจทก์มีสิทธิได้รับเงินค่าจ้างเดินท่อประปาและค่าติดตั้งเครื่องสูบน้ำด้วยหรือไม่ เห็นว่าตามหนังสือแจ้งการโอนสิทธิเรียกร้องของห้างหุ้นส่วนจำกัดต.ชินรัตน์ก่อสร้างที่มีถึงจำเลย กับหนังสือตอบรับทราบการโอนสิทธิเรียกร้องของจำเลยระบุว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด ต.ชินรัตน์ก่อสร้างขอโอนสิทธิเรียกร้องการรับเงินจากจำเลยให้โจทก์แต่ผู้เดียว รวมทั้งเงินเพิ่มอื่น ๆ อีกด้วย อันแสดงเจตนาจะโอนสิทธิเรียกร้องในการรับเงินงวดที่ 3ทั้งหมดซึ่งรวมถึงค่าเดินท่อประปาและค่าติดตั้งเครื่องสูบน้ำด้วยโจทก์จึงมีสิทธิได้รับเงินดังกล่าว และปัญหาว่า จำเลยจะต้องเสียดอกเบี้ยในจำนวนเงินที่โจทก์มีสิทธิได้รับหรือไม่ เห็นว่า การวางเงินของจำเลย ณ สำนักงานวางทรัพย์กลางนั้น มิใช่วางให้โจทก์รับไปหากแต่วางโดยมีเงื่อนไขให้สำนักงานวางทรัพย์กลางจ่ายให้แก่เจ้าหนี้ที่แท้จริง โดยให้โจทก์และห้างหุ้นส่วนจำกัดต.ชินรัตน์ก่อสร้าง ไปหาข้อยุติกันก่อน จึงไม่ใช่วางเพื่อประโยชน์แก่โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ตามสัญญาโอนสิทธิเรียกร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 331 จำเลยจึงเป็นผู้ผิดนัดต้องเสียดอกเบี้ยตามมาตรา 224
พิพากษายืน

Share