แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยตั้งแผงลอยกับจอดรถเข็นของจำเลยปิดบังหน้าร้านและข้างร้านของโจทก์ที่ติดถนนสาธารณะ แม้โจทก์จะผ่านเข้าออกร้านของในส่วนอื่นได้บ้างแต่ก็ไม่สะดวกเท่าที่ควร การกระทำของจำเลยจึงเป็นการละเมิดต่อโจทก์.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ตั้งร้านแผงลอยขายหนังสือพิมพ์ดอกไม้และอาหารปิ้งย่างริมทางเท้าด้านหน้าร้านโจทก์ที่ติดถนนสาธารณะปิดบังขวางทางเข้าออกของโจทก์และของลูกค้าที่นำรถมาซ่อม ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายและเดือดร้อนขอให้บังคับจำเลยและบริวารขนย้ายรื้อถอนร้านแผงลอยออกไปจากหน้าร้านของโจทก์ไม่ให้เข้ามาเกี่ยวข้องอีก ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายถึงวันฟ้อง 2,000 บาท และอีกเดือนละ 500 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะขนย้ายแผงลอยออกไปจากหน้าร้านโจทก์เสร็จสิ้น
จำเลยให้การว่า จำเลยนำรถเข็นมาตั้งเป็นร้านขายหนังสืออยู่ริมไหล่ทางมิได้ตั้งอยู่ริมทางเท้าด้านหน้าร้านโจทก์ จึงไม่ทำให้โจทก์เสียสิทธิใช้ทางเข้าออกสู่ถนนสาธารณะโจทก์ไม่เสียหายหากมีความเสียหายก็ไม่เกินเดือนละ 50 บาทขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยและบริวารขนย้ายรื้อถอนร้านแผงลอยออกไปจากหน้าร้านโจทก์ และห้ามมิให้เข้ามาเกี่ยวข้องหน้าร้านโจทก์อีกต่อไป
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่โต้เถียงกันรับฟังได้ในเบื้องต้นว่าโจทก์เป็นเจ้าของร้านค้าเลขที่ 339อยู่หมู่ที่ 1 ตำบลปากคลองบางปลากด กิ่งอำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ หน้าร้านอยู่ติดถนนสุขสวัสดิ์ ด้านข้างอยู่ติดซอยโกเบที่ร้านของโจทก์ดังกล่าวนี้จำหน่ายอะไหล่รถจักรยานยนต์ รถจักรยานและรับซ่อมด้วย โดยใช้ชื่อร้านว่า โกเบมอเตอร์ไซด์ จำเลยได้ตั้งแผงลอยกับจอดรถเข็นอยู่ที่หน้าร้านโจทก์ตรงบริเวณถนนสุขสวัสดิ์ตัดกับซอยโกเบเป็นประจำทุกวัน
จำเลยฎีกาว่า การกระทำของจำเลยดังกล่าวไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์ และโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องนั้น พิเคราะห์แล้วเห็นว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1337 บัญญัติว่า “บุคคลใดใช้สิทธิของตนเป็นเหตุให้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินที่ควรคิดหรือคาดหมายได้ว่าจะเป็นไปตามปกติและเหตุอันควร ในเมื่อเอาสภาพและตำแหน่งที่อยู่แห่งทรัพย์สินนั้นมาคำนึงประกอบไซร้ ท่านว่าเจ้าของอสังหาริมทรัพย์มีสิทธิจะปฏิบัติการเพื่อยังความเสียหายหรือเดือดร้อนนั้นให้สิ้นไป ทั้งไม่ลบล้างสิทธิที่จะเรียกเอาค่าทดแทน” ประกอบกับศาลฎีกาได้พิจารณาตามภาพถ่ายหมาย จ.7 และ จ.8 แล้วเห็นได้ชัดเจนว่า แผงลอยกับรถเข็นของจำเลยปิดบังหน้าร้านและข้างร้านของโจทก์บางส่วน เช่นนี้แม้โจทก์จะผ่านเข้าออกร้านของโจทก์ในส่วนอื่นได้บ้างก็ตาม แต่ก็เป็นการไม่สะดวกเท่าที่ควร ฉะนั้น เมื่อจำเลยตั้งแผงลอยกับจอดรถเข็นกีดขวางทางเข้าออกร้านโจทก์เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินที่ควรคิดหรือคาดหมายได้ว่าจะเป็นไปตามปกติและเหตุอันควร การกระทำดังกล่าวของจำเลยจึงเป็นการละเมิดต่อโจทก์ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องเพื่อยังความเสียหายหรือเดือดร้อนนั้นให้สิ้นไปได้ ฎีกาจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น…”
พิพากษายืน.