คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2390/2535

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาในข้อหายักยอกเงินโจทก์ศาลประทับฟ้องไว้พิจารณาแล้ว เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2524 แต่ยังไม่ได้ตัวจำเลยมาพิจารณา ศาลจึงมีคำสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราว คดีอาญาจึงยังไม่เด็ดขาด อายุความซึ่งโจทก์เป็นผู้เสียหายมีสิทธิจะฟ้องเป็นคดีแพ่งย่อมสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 51 วรรคสอง โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่งเรียกเงินที่จำเลยยักยอกไปคืนเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2534 จึงไม่ขาดอายุความ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นลูกจ้างโจทก์ ในตำแหน่งพนักงานบัญชีประจำธนาคารโจทก์สาขาบางเลน ระหว่างวันที่ 27 เมษายน 2524ถึงวันที่ 14 กรกฎาคม 2524 จำเลยร่วมกับพวกอีก 2 คน ปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตทำหลักฐานว่า ลูกค้าขอกู้ยืมเงินโดย ออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้ธนาคารโจทก์สาขาบางเลน รวม 137 ฉบับ เป็นเงิน4,092,650 บาท จำเลยเบิกเงินจำนวนดังกล่าวไป โดย รู้ว่ามิได้มีลูกค้าผู้มีชื่อตามตั๋วสัญญาใช้เงินกู้ยืมแล้วนำไปเป็นประโยชน์ของจำเลย 600,000 บาทขอให้บังคับจำเลยชดใช้เงินจำนวน600,000 บาท แก่โจทก์
จำเลยให้การว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ เพราะการกระทำที่โจทก์อ้างเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2524 ถึงวันที่ 14กรกฎาคม 2524 เมื่อนับถึงวันฟ้องล่วงเลยเกินไป 10 ปี คดีจึงขาดอายุความ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 95 และสิทธิฟ้องคดีแพ่งของโจทก์ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 51 และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยคืนหรือชดใช้เงิน จำนวน600,000 บาท แก่โจทก์ จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “จำเลยอุทธรณ์ว่าเดิมจำเลยถูกฟ้องที่ศาลจังหวัดนครปฐมในคดีอาญาว่า ตั้งแต่วันที่27 เมษายน 2524 ถึงวันที่ 14 กรกฎาคม 2524 จำเลยยักยอกเงินโจทก์ศาลจังหวัดนครปฐมไต่สวนมูลฟ้อง มีคำสั่งประทับฟ้องแล้วจำหน่ายคดีชั่วคราวเพราะยังไม่ได้ตัวจำเลยมาพิจารณาคดี โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2534 เป็นเวลาเกิน 10 ปีนับแต่วันที่โจทก์อ้างว่าจำเลยยักยอกเงิน คดีจึงขาดอายุความฟ้องร้องเรียกเงินที่ยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 95(3) ประกอบประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 วรรค 2 นั้น เห็นว่าโจทก์ฟ้องคดีเรียกเงินจำนวน 600,000 บาท ซึ่งจำเลยรับสารภาพว่ายักยอกและยินยอมชดใช้คืนให้โจทก์ เป็นการฟ้องเรียกมูลค่าทรัพย์สินของโจทก์ซึ่งจำเลยเอาไปโดย ไม่มีสิทธิ ทั้งเป็นการฟ้องคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาซึ่งเดิมโจทก์ฟ้องเป็นคดีอาญาและศาลจังหวัดนครปฐมประทับฟ้องไว้พิจารณาเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2524แต่ยังไม่ได้ตัวจำเลยมาพิจารณาและศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวคดีอาญายังไม่เด็ดขาด อายุความซึ่งโจทก์เป็นผู้เสียหายมีสิทธิจะฟ้องคดีแพ่งย่อมสดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 51วรรค 2 โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้วันที่ 30 สิงหาคม 2534 คดีโจทก์ยังไม่ขาดอายุความ ที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share