แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยไม่ชำระค่าเช่าตามสัญญาและเมื่อครบกำหนดสัญญาเช่าจำเลยยังคงครอบครองอู่ที่เช่าโดยไม่มีสิทธิที่จะอ้างได้ตามกฎหมายเป็นการละเมิดต่อโจทก์ โจทก์จึงชอบที่จะตัดไม่ให้จำเลยใช้น้ำประปาเพื่อบรรเทาความเสียหายที่โจทก์ได้รับอยู่ได้ ไม่เป็นการละเมิดต่อจำเลย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเช่าอู่รถยนต์ของโจทก์มีกำหนด 1 ปีค่าเช่าเดือนละ 2,000 บาท จำเลยค้างชำระค่าเช่าตั้งแต่เดือนธันวาคม 2527 ตลอดมา ครบกำหนดสัญญาแล้วจำเลยไม่ยอมออกไป โจทก์บอกเลิกสัญญาจำเลยเพิกเฉย ขอให้ขับไล่จำเลย ให้จำเลยชำระค่าเช่าที่ค้างชำระเป็นเงิน 34,000 บาท และค่าเสียหายอัตราเดือนละ 2,000บาท นับแต่เดือนพฤษภาคม 2529 จนกว่าจำเลยจะออกไปจากอู่ของโจทก์
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า สัญญาเช่าอู่เป็นสัญญาต่างตอบแทนมีระยะเวลาเช่า 10 ปี จำเลยชำระค่าเช่าแล้วแต่โจทก์ไม่ยอมออกใบเสร็จรับเงินให้ โจทก์ไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญา เมื่อวันที่ 27มกราคม 2529 โจทก์ตัดท่อและงดส่งน้ำให้จำเลย เป็นการละเมิด ทำให้จำเลยขาดผลกำไรเดือนละ 15,000 บาท คิดถึงวันฟ้องเป็นเงิน 60,000บาท ขอให้ยกฟ้อง และบังคับโจทก์ให้ชดใช้ค่าเสียหายจำนวนดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ และค่าเสียหายอีกเดือนละ 15,000 บาท
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า จำเลยไม่ชำระค่าเช่าและค่าน้ำแก่โจทก์ โจทก์จึงชอบที่จะงดส่งน้ำให้จำเลยได้ไม่เป็นละเมิดขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลย ให้จำเลยชำระค่าเช่าที่ค้าง 32,000 บาท และชำระค่าเสียหายเดือนละ 2,000 บาท นับแต่เดือนพฤษภาคม 2529 จนกว่าจำเลยจะขนย้ายออกไปจากอู่พิพาท ให้ยกฟ้องแย้ง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับฟ้องแย้ง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยค้างชำระค่าเช่าตั้งแต่เดือนมกราคม 2528 จนถึงวันฟ้องเป็นเวลา 16 เดือน เป็นเงิน 32,000บาท โจทก์ได้ตัดไม่ให้จำเลยใช้น้ำประปาเมื่อวันที่ 27 มกราคม2529 เห็นว่านอกจากจำเลยจะเป็นฝ่ายผิดสัญญาไม่ชำระค่าเช่าแก่โจทก์ตลอดมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2528 และสัญญาเช่าอู่พิพาท เอกสารหมาย จ.1 มีกำหนดเวลาที่แน่นอนย่อมจะระงับสิ้นไปตั้งแต่วันที่4 ธันวาคม 2528 ซึ่งเป็นวันครบกำหนด 1 ปี โดยโจทก์ไม่ต้องบอกเลิกสัญญาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 568 ขณะที่โจทก์ตัดไม่ให้จำเลยใช้น้ำประปาจึงเป็นเวลาที่จำเลยครอบครองอู่พิพาทอยู่โดยไม่มีสิทธิที่จะอ้างได้ตามกฎหมายเป็นการละเมิดต่อโจทก์โจทก์จึงชอบที่จะตัดไม่ให้จำเลยใช้น้ำประปาเพื่อบรรเทาความเสียหายที่โจทก์ได้รับอยู่ได้ไม่เป็นการละเมิดต่อจำเลย ศาลอุทธรณ์ภาค 1พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน