แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยไม่ต้องการให้ถอนเอาโช้กอัพ หน้าที่จำเลยรับของโจรไว้ไปจากรถจักรยานยนต์ของจำเลย จำเลยได้ตกลงช่วยเหลือค่าโช้กอัพให้แก่ผู้เสียหาย ผู้เสียหายได้รับเงินไปแล้วโดยรับว่าจะไม่เรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ อีก จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดคืนทรัพย์ดังกล่าวแก่ผู้เสียหายตามคำขอของพนักงานอัยการโจทก์อีก
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ได้มีคนร้ายเข้าไปลักเอารถจักรยานยนต์ 1 คันราคา 15,000 บาท ของนายมนัส บุญเทศ ผู้เสียหาย ซึ่งจอดอยู่บริเวณใต้ถุนบ้านอันเป็นเคหสถานของผู้เสียหายโดยทุจริต ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยได้พร้อมชิ้นส่วนของรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายคือโช้กอัพ หน้าและวงล้อยางหน้า ราคา 5,000 บาทซึ่งเป็นทรัพย์ส่วนหนึ่งของผู้เสียหายที่ถูกลักไปอยู่ในความครอบครองของจำเลยจึงยึดไว้เป็นของกลาง ทั้งนี้จำเลยเป็นคนร้ายลักเอารถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไปโดยทุจริต หรือมิฉะนั้นจำเลยได้รับของกลางดังกล่าวไว้โดยรู้อยู่ว่า เป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ จำเลยได้ชดใช้เงิน 5,000 บาทเป็นค่าโช้กอัพ หน้าและวงล้อยางหน้าให้ผู้เสียหายแล้ว ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335, 357 และให้จำเลยคืนส่วนของรถจักรยานยนต์ที่ยังไม่ได้คืนแก่ผู้เสียหาย หรือใช้เงินส่วนที่เหลือ10,000 บาท แก่ผู้เสียหาย
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง แต่ให้จำเลยคืนโช้กอัพ หน้าของกลางแก่ผู้เสียหาย ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 วรรคแรก จำคุก 1 ปี ให้จำเลยคืนวงล้อหน้าของกลางแก่ผู้เสียหายด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พฤติการณ์ดังวินิจฉัยฟังได้ว่าจำเลยรับโช้กอัพ ของผู้เสียหายไว้โดยรู้อยู่ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ จำเลยจึงกระทำความผิดฐานรับของโจรโช้กอัพ ดังกล่าว คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ให้ลงโทษจำเลยฐานรับของโจรจึงชอบเฉพาะที่เกี่ยวกับโช้กอัพ หน้าเท่านั้น ส่วนที่ลงโทษฐานรับของโจรวงล้อหน้าและให้จำเลยคืนวงล้อดังกล่าวแก่ผู้เสียหายด้วยนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
อนึ่ง ข้อเท็จจริงปรากฏด้วยว่าจำเลยไม่ต้องการให้ถอดเอาโช้กอัพ หน้าและวงล้อหน้าไปจากรถจักรยานยนต์ของจำเลย จำเลยได้ตกลงช่วยเหลือค่าโช้กอัพ และวงล้อดังกล่าวให้แก่ผู้เสียหายเป็นเงิน5,000 บาท ผู้เสียหายได้รับเงินจำนวนดังกล่าวไปแล้ว โดยรับว่าจะไม่เรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ อีก ดังนั้น จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดคืนทรัพย์ดังกล่าวแก่ผู้เสียหายอีก แม้จำเลยไม่ได้อุทธรณ์ฎีกาปัญหานี้ขึ้นมา ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้องด้วย เพราะเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย และเห็นสมควรกำหนดโทษน้อยลง”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลย 8 เดือน โดยจำเลยไม่ต้องคืนโช้กอัพ หน้าและวงล้อหน้าแก่ผู้เสียหาย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1