คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7065/2541

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติสุขาภิบาล พ.ศ. 2495ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสุขาภิบาล (ฉบับที่ 3)พ.ศ. 2528 บัญญัติให้การเลือกตั้งกรรมการสุขาภิบาลให้ใช้วิธีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลโดยอนุโลมและตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พ.ศ. 2482มาตรา 58 วรรคหนึ่ง บัญญัติให้ศาลเมื่อได้รับคำร้อง คัดค้านแล้ว ให้ดำเนินการพิจารณาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งโดยเร็ว โดยให้เจ้าหน้าที่ ผู้ดำเนินการเลือกตั้งหรือผู้ได้รับเลือกตั้งที่มีส่วนได้เสีย มีโอกาสต่อสู้การคัดค้านนั้นเมื่อศาลสั่งอย่างใดให้แจ้งคำสั่ง ไปยังเทศบาลโดยมิชักช้า คำสั่งศาลนั้นให้เป็นที่สุดซึ่งหมายความว่า เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งอย่างไรเกี่ยวกับการเลือกตั้งกรรมการสุขาภิบาลแล้ว คำสั่งของศาลชั้นต้นเป็นที่สุด คู่ความไม่สามารถอุทธรณ์ฎีกาได้การที่ผู้ร้องอุทธรณ์ฎีกาโต้แย้งคำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวจึงต้องห้ามตามบทบัญญัติดังกล่าว ที่ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์และฎีกาของผู้ร้อง และที่ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ร้องจึงเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัย และพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และยกฎีกาของผู้ร้องทั้งสี่ให้บังคับคดีไปตามคำสั่งของศาลชั้นต้น คืนค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกาทั้งหมด ให้แก่ผู้ร้องทั้งสี่

ย่อยาว

ผู้ร้องทั้งสี่ยื่นคำร้องว่า การเลือกตั้งกรรมการสุขาภิบาลตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 9 คน ในวันเลือกตั้งวันที่ 2สิงหาคม 2539 มีผู้สมัครรับเลือกตั้ง 29 คน รวมทั้งผู้ร้องทั้งสี่และผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 3 ด้วย ผลการเลือกตั้งปรากฏว่าผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 3 ได้รับเลือกตั้ง แต่การเลือกตั้งดังกล่าวเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้มีคำสั่งว่าผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 3มิได้รับเลือกตั้งโดยชอบ และผู้ร้องทั้งสี่เป็นผู้รับเลือกตั้งโดยชอบ
ผู้คัดค้านทั้งเก้ายื่นคำคัดค้าน ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นเห็นว่า คำร้องของผู้ร้องทั้งสี่เคลือบคลุมมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องทั้งสี่อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
ผู้ร้องทั้งสี่ฎีกา
ศาลฎีกาคณะคดีปกครองวินิจฉัยว่า เห็นสมควรวินิจฉัยเสียก่อนว่าผู้ร้องทั้งสี่มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งของศาลชั้นต้นหรือไม่ เห็นว่า ตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติสุขาภิบาล พ.ศ. 2495ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสุขาภิบาล (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2528บัญญัติให้การเลือกตั้งกรรมการสุขาภิบาลให้ใช้วิธีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลโดยอนุโลม และตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลพ.ศ. 2482 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “เมื่อศาลได้รับคำร้องคัดค้านแล้วให้ดำเนินการพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งโดยเร็ว โดยให้เจ้าหน้าที่ผู้ดำเนินการเลือกตั้งหรือผู้ได้รับเลือกตั้งที่มีส่วนได้เสียมีโอกาสต่อสู้การคัดค้านนั้น เมื่อศาลสั่งอย่างใดให้แจ้งคำสั่งไปยังเทศบาลโดยมิชักช้า คำสั่งศาลนั้นให้เป็นที่สุด” ซึ่งหมายความว่า เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งอย่างไรเกี่ยวกับการเลือกตั้งกรรมการสุขาภิบาลแล้ว คำสั่งของศาลชั้นต้นเป็นที่สุด คู่ความไม่สามารถอุทธรณ์ฎีกาได้ การที่ผู้ร้องทั้งสี่อุทธรณ์ฎีกาโต้แย้งคำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวจึงต้องห้ามตามบทบัญญัติดังกล่าว ที่ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์และฎีกาของผู้ร้องทั้งสี่ และที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ร้องทั้งสี่นั้น เป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่อาจรับวินิจฉัยฎีกาของผู้ร้องทั้งสี่ได้
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 และยกฎีกาของผู้ร้องทั้งสี่ ให้บังคับคดีไปตามคำสั่งของศาลชั้นต้นคืนค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกาทั้งหมดให้แก่ผู้ร้องทั้งสี่

Share