คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4685/2541

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ โดยบิดามารดายกให้ โจทก์มาประมาณ 10 ปีแล้ว ประเด็นในคดีมีว่าที่พิพาทเป็นของ โจทก์หรือไม่ เมื่อทางพิจารณาได้ความว่า ที่พิพาทมิใช่ของโจทก์ แต่เป็นของบุตรโจทก์ และบุตรโจทก์มิได้มอบอำนาจให้โจทก์ฟ้องคดีหรือโจทก์ฟ้องคดีแทนบุตรดังนี้โจทก์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้อง ปัญหาเรื่องอำนาจฟ้อง เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลมีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 142(5)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่พิพาท โดยโจทก์ได้มาจากบิดามารดา ยกให้เมื่อประมาณ 10 ปีมาแล้ว โจทก์เข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินติดต่อกันมาโดยสงบ โดยเปิดเผย โดยสุจริตอย่างเป็นเจ้าของ และโจทก์ได้นำสำรวจเสียภาษีบำรุงท้องที่ตลอดมาเมื่อประมาณเดือนธันวาคม 2535 โจทก์เข้าไปปลูกบ้านที่พิพาทแต่จำเลยได้รื้อถอนบ้านของโจทก์ แล้วจำเลยเข้าไปปลูกบ้านในที่พิพาทเป็นการละเมิดสิทธิโจทก์ โจทก์ให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรกิ่งอำเภอหนองปรือทำการไกล่เกลี่ยให้ แต่ไม่อาจตกลงกันได้จึงต้องฟ้องเป็นคดีนี้ ขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนบ้านเรือนของจำเลยออกจากที่พิพาทและห้ามจำเลยและบริวารเข้ามาเกี่ยวข้อง
จำเลยให้การต่อสู้คดี ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยแบ่งที่ดินพิพาทตามแนวเส้นสีแดงในรูปแผนที่พิพาทให้โจทก์ครึ่งหนึ่ง หากโจทก์จำเลยตกลงแบ่งที่พิพาทกันไม่ได้ก็ให้บังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1364 คำขออื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ข้อแรกว่า ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 วินิจฉัยว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องและพิพากษายกฟ้องไม่ชอบเพราะคดีนี้อำนาจฟ้องมิใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนนั้น เห็นว่าศาลอุทธรณ์ภาค 3 ฟังข้อเท็จจริงยุติว่าที่ดินแปลงพิพาทเดิมเป็นของนายจันทร์และนางวนบิดามารดานายสากลสามีโจทก์ต่อมาบิดามารดานายสากลได้ยกที่พิพาทให้บุตรโจทก์ โดยใส่ชื่อโจทก์ไว้แทน เนื่องจากนายสากลไม่ช่วยทำมาหากินและไม่รับผิดชอบเลี้ยงดูบุตร เมื่อโจทก์ฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์โดยบิดามารดายกให้โจทก์มาประมาณ 10 ปีแล้ว ฉะนั้น ประเด็นในคดีจึงมีว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์หรือไม่ เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าที่พิพาทมิใช่เป็นของโจทก์ แต่เป็นของบุตรโจทก์ และบุตรโจทก์มิได้มอบอำนาจให้โจทก์ฟ้องคดีหรือโจทก์ฟ้องคดีแทนบุตร แต่โจทก์ฟ้องคดีนี้เป็นการส่วนตัว โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 วินิจฉัยว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5) ประกอบด้วยมาตรา 246 ชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share