แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
วันสุดท้ายที่ผู้คัดค้านมีสิทธิยื่นอุทธรณ์ได้คือ วันที่ 7 มีนาคม 2539 ศาลชั้นต้นได้อนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ไปอีก 20 วัน นับแต่วันครบกำหนดอุทธรณ์ จึงต้องนับวันที่ต่อจาก วันสุดท้ายของระยะเวลาเดิมเป็นวันเริ่มต้นคือเริ่มนับตั้งแต่ วันที่ 8 มีนาคม 2539 ตามมาตรา 197/7 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ผู้คัดค้านจึงมีสิทธิยื่นอุทธรณ์ภายในวันที่ 27 มีนาคม 2539 เป็นวันสุดท้าย บริษัทน.เป็นลูกค้าของผู้คัดค้านประเภทขาดลดเช็คโดยจำเลยเป็นผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทน.การที่บริษัทน. ได้ทำสัญญาขายลดเช็คกับผู้คัดค้าน และจำเลยได้จำนองที่ดิน พร้อมสิ่งปลูกสร้างไว้แก่ผู้คัดค้านเพื่อเป็นประกันการชำระหนี้ ซึ่งบริษัทน.ได้รับเงินจากผู้คัดค้านไปเรียบร้อย แล้วการจำนองดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการจำนองโดยมีค่าตอบแทน แม้การจำนองจะเป็นการจำนองภายหลังระยะเวลาที่โจทก์ฟ้อง ขอให้จำเลยล้มละลายอันเป็นการโอนทรัพย์สินหรือการกระทำใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินของจำเลย ซึ่งจำเลยได้กระทำหรือยินยอม ให้กระทำภายหลังมีการขอให้ล้มละลายก็ตาม เมื่อข้อเท็จจริง ได้ความว่าการจำนองดังกล่าวผู้คัดค้านกระทำโดยสุจริต และมีค่าตอบแทน ผู้คัดค้านย่อมได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 114
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยล้มละลายเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2534 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเด็ดขาดเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2534 และพิพากษาให้ล้มละลาย เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2538 ขณะนี้ยังไม่พ้นการล้มละลาย ตามทางสอบสวนของผู้ร้องปรากฏว่าเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2534 จำเลยได้จดทะเบียนจำนองที่ดินโฉนดเลขที่ 130505 พร้อมสิ่งปลูกสร้างไว้แก่ผู้คัดค้านเพื่อเป็นประกันหนี้ของบริษัทนันทเขตต์รุ่งโรจน์ จำกัด ซึ่งจำเลยเป็นกรรมการผู้จัดการโดยจำเลยไม่ได้รับค่าตอบแทนจากผู้คัดค้าน ขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนจำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างตามคำร้องดังกล่าว ระหว่างจำเลยกับผู้คัดค้านตามมาตรา 114 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ผู้คัดค้านรับจำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างไว้เป็นประกันหนี้โดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เพิกถอนการจดทะเบียนจำนองที่ดินโฉนดเลขที่ 130505 พร้อมสิ่งปลูกสร้างระหว่างจำเลยกับผู้คัดค้าน โดยให้ผู้คัดค้านไปดำเนินการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียน หากไม่ไปให้ถือเอาคำสั่งแทนการแสดงเจตนาของผู้คัดค้าน
ผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกคำร้องของ ผู้ร้อง
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้วข้อเท็จจริงฟังยุติได้ในเบื้องต้นว่า โจทก์ได้ยื่นฟ้องจำเลยขอให้ล้มละลายเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2534 วันที่ 13 มิถุนายน 2534 จำเลยได้นำที่ดินโฉนดเลขที่ 130505 ตำบลลาดพร้าว (ออเป้า) อำเภอบางกะปิ กรุงเทพมหานคร พร้อมสิ่งปลูกสร้างจดทะเบียนจำนองไว้กับผู้คัดค้านเพื่อประกันหนี้ตามสัญญาขายลดเช็คระหว่างบริษัทนันทเขตต์รุ่งโรจน์ จำกัด กับผู้คัดค้าน ศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยไว้เด็ดขาดเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2534 วันที่ 30 พฤศจิกายน 2535 ผู้คัดค้านได้ยื่นฟ้องบริษัทนันทเขตต์รุ่งโรจน์ จำกัด กับจำเลยให้ชำระหนี้ตามสัญญาขายลดเช็คและบังคับจำนอง วันที่ 29 กันยายน 2536 ศาลได้พิพากษาให้บริษัทนันทเขตต์รุ่งโรจน์ จำกัด กับจำเลยร่วมกันชำระหนี้ให้ผู้คัดค้าน วันที่ 24 มกราคม 2538 ศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยล้มละลาย คดีมีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องข้อแรกว่า ผู้คัดค้านยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนดหรือไม่ เห็นว่าคดีนี้ศาลชั้นต้นอ่านคำสั่งเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2539 ผู้คัดค้านมีสิทธิยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนด 1 เดือน นับแต่วันที่ได้อ่านคำสั่ง วันสุดท้ายที่ผู้คัดค้านมีสิทธิยื่นอุทธรณ์ได้คือวันที่ 7 มีนาคม 2539 แต่ในวันที่ 4 มีนาคม 2539 ผู้คัดค้านได้ขอขยายระยะเวลาในการยื่นอุทธรณ์ออกไปอีก 20 วัน เมื่อศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ไปอีก 20 วันนับแต่วันครบกำหนดอุทธรณ์ จึงต้องนับวันที่ต่อจากวันสุดท้ายของระยะเวลาเดิมเป็นวันเริ่มต้น คือเริ่มต้นนับตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม 2539 ตามบทบัญญัติมาตรา 193/7 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ผู้คัดค้านจึงมีสิทธิยื่นอุทธรณ์ภายในวันที่ 27 มีนาคม 2539 เป็นวันสุดท้ายเมื่อผู้คัดค้านยื่นอุทธรณ์ในวันที่ 26 มีนาคม 2539 ซึ่งอยู่ภายในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นอนุญาตอุทธรณ์ของผู้คัดค้าน จึงชอบแล้ว คดีมีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องข้อต่อไปว่า ผู้ร้องจะขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนจำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างระหว่างผู้คัดค้านกับจำเลยตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 114 ได้หรือไม่ เห็นว่าบริษัทนันทเขตต์รุ่งโรจน์ จำกัด เป็นลูกค้าของผู้คัดค้านประเภทขายลดเช็ค โดยจำเลยเป็นผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทนันทเขตต์รุ่งโรจน์ จำกัด การที่บริษัทนันทเขตต์รุ่งโรจน์จำกัด ได้ทำสัญญาขายลดเช็คกับผู้คัดค้าน และจำเลยได้จำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างไว้แก่ผู้คัดค้าน เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2534 เพื่อเป็นประกันการชำระหนี้ซึ่งบริษัทนันทเขตต์รุ่งโรจน์ จำกัด ได้รับเงินจากผู้คัดค้านไปเรียบร้อยแล้ว การที่จำเลยจำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างไว้แก่ผู้คัดค้านดังกล่าว จึงถือได้ว่าเป็นการจำนองโดยมีค่าตอบแทนจะถือว่าเป็นการจำนองโดยจำเลยไม่ได้รับเงินในฐานะส่วนตัวและไม่มีค่าตอบแทนดังผู้ร้องฎีกาหาได้ไม่ดังนั้นแม้การจำนองดังกล่าวจะเป็นการจำนองภายหลังระยะเวลาที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยล้มละลาย อันเป็นการโอนทรัพย์สินหรือการกระทำใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินของจำเลย ซึ่งจำเลยได้กระทำหรือยินยอมให้กระทำภายหลังมีการขอให้ล้มละลายก็ตาม แต่เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า การจำนองดังกล่าวผู้คัดค้านกระทำโดยสุจริตและมีค่าตอบแทนดังกล่าวมาแล้ว ผู้คัดค้านย่อมได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 114 ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นชอบแล้ว ฎีกาทุกข้อหาผู้ร้องฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน