คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3780/2541

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเปิดบัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ที่ธนาคารผู้เสียหายและขอทำบัตร เอ.ที.เอ็ม. ด้วย แต่พนักงานของผู้เสียหายกรอกหมายเลขบัญชีของ ล. กับพวก ลงไปในคำขอใช้บริการบัตรเอ.ที.เอ็ม. ของจำเลย แทนที่จะกรอกหมายเลขบัญชีของจำเลย ในคำขอดังกล่าว เมื่อจำเลยเป็นผู้ใช้บัตร เอ.ที.เอ็ม.นั้นไปเบิกถอนเงินเป็นเหตุให้มีการหักเงินในบัญชีของ ล.กับพวก แทนที่จะมีการหักเงินในบัญชีของจำเลย จำเลยจึงมีความผิดฐานลักทรัพย์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 334, 91 และให้จำเลยคืนหรือใช้เงินจำนวน 100,130 บาทแก่ผู้เสียหาย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 334 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้เรียงกระทงลงโทษรวม 5 กระทง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ให้จำคุกกระทงละ 1 เดือน รวมจำคุก 5 เดือนให้จำเลยคืนหรือใช้เงินจำนวน 100,130 บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาในศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นรับฟังเป็นยุติว่าจำเลยเปิดบัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ที่ธนาคารผู้เสียหายสาขาบางเลนและขอทำบัตร เอ.ที.เอ็ม. ด้วย แต่พนักงานของผู้เสียหายกรอกหมายเลขบัญชีของนางละออง ซ้งสมบุญ กับพวก ลงไปในคำขอใช้บริการบัตร เอ.ที.เอ็ม. ของจำเลยแทนที่จะกรอกหมายเลขบัญชีของจำเลยในคำขอดังกล่าว เมื่อมีการนำบัตร เอ.ที.เอ็ม. ดังกล่าวไปเบิกถอนเงินเป็นเหตุให้มีการหักเงินในบัญชีของนางละอองกับพวกแทนที่จะมีการหักเงินในบัญชีของจำเลย วันเวลาตามฟ้องมีคนนำบัตร เอ.ที.เอ็ม. ของจำเลยเบิกถอนเงินจากเครื่องฝากเงินอัตโนมัติเป็นเงิน 100,000 บาท และค่าเบิกถอนอีก 130 บาท ตามรายการเบิกถอนเงินหมาย จ.9 ถึง จ.13 แล้ววินิจฉัยข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยเป็นผู้ใช้บัตร เอ.ที.เอ็ม. ถอนเงินไปจากบัญชีของนางละอองกับพวก จำเลยจึงต้องมีความผิดตามที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัย แต่ปรากฏว่าจำเลยเป็นหญิงมีอาชีพค้าขายเหตุที่เกิดคดีนี้เพราะความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ธนาคาร มิได้เกิดจากการกระทำของจำเลยมาแต่ต้น โทษที่ลงแก่จำเลยมีเพียง 5 เดือน เท่านั้นไม่ปรากฏว่าจำเลยต้องโทษจำคุกมาก่อนเห็นควรให้โอกาสจำเลยกลับตนเป็นคนดีต่อไปจึงให้รอการลงโทษให้จำเลย
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษปรับอีกสถานหนึ่งกระทงละ 4,000 บาทรวม 5 กระทง ให้ปรับ 20,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ให้วางข้อกำหนดคุมประพฤติจำเลยโดยให้จำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 6 เดือน มีกำหนด 2 ปี และให้จำเลยกระทำกิจกรรมสาธารณะตามที่จำเลยและพนักงานคุมประพฤติเห็นสมควรมีกำหนด 20 ชั่วโมง ถ้าจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้บังคับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2

Share