คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3071/2540

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

หลังจากโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินของจำเลยแล้ว ต่อมา ศ. ได้ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินที่ถูกยึดกับฝ่ายจำเลย โดย ศ. ได้ขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่ดินจากธนาคาร น. และได้รับอนุมัติสินเชื่อแล้ว ธนาคาร น.จึงได้ออกแคชเชียร์เช็คจำนวน 6,200,945.44 บาท เพื่อให้ศ. ใช้ชำระค่าซื้อที่ดิน ต่อมาได้มีการมอบแคชเชียร์เช็คดังกล่าวแก่โจทก์และโจทก์ได้ขอถอนการยึดทรัพย์ที่ดินของฝ่ายจำเลยเพื่อจะได้จดทะเบียนโอนขายแก่ ศ. และจดทะเบียนจำนองเป็นประกันหนี้ต่อธนาคาร น. ต่อไป และเจ้าพนักงานบังคับคดีอนุญาตแล้วก็ตาม แต่การที่โจทก์ ศ. และธนาคาร น.ตกลงให้โจทก์ถือแคชเชียร์เช็คดังกล่าวไว้เป็นประกันในการที่ยอมถอนการยึดทรัพย์ที่ดินให้เท่านั้น หากต่อมาตกลงซื้อขายกันไม่ได้โจทก์ย่อมคืนแคชเชียร์เช็คให้แก่ธนาคาร น. ได้ การที่ ศ. จะชำระค่าที่ดินโดยแคชเชียร์เช็คดังกล่าวก็เพื่อให้จำเลยที่ 2 จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ให้ศ. ในคราวเดียวภายในวันเดียวกันเพียงแต่ต้องมอบแคชเชียร์เช็คให้โจทก์ก่อน เพื่อให้ขั้นตอนการถอนการยึดทรัพย์ซึ่งต้องกระทำก่อนการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์กระทำได้สำเร็จ โดย ศ. มีเจตนาจะชำระเงินค่าที่ดินตามแคชเชียร์เช็คนั้นให้แก่จำเลยที่ 2 เป็นค่าซื้อที่ดินโดยเงื่อนไขว่าต้องมีการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ให้ ศ.ได้ในวันเดียวกันนั้น เมื่อจำเลยที่ 2 ยังไม่สามารถจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ ศ. ได้ จำเลยที่ 2 จึงยังไม่มีสิทธิได้รับเงินตามแคชเชียร์เช็คนั้นเป็นการชำระค่าที่ดินและการมอบแคชเชียร์เช็คให้โจทก์ยึดถือไว้ เช่นนี้ย่อมถือไม่ได้ว่าจำเลยได้ชำระหนี้ตามคำพิพากษาแก่โจทก์แล้วโจทก์ย่อมจะคืนแคชเชียร์เช็คแก่ธนาคาร น. ตามข้อตกลงได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากจำเลย และโจทก์มีสิทธิบังคับคดีจำเลยต่อไปได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีและนำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดที่ดิน น.ส.3 เลขที่ 25 กับที่ดินโฉนดเลขที่ 2108, 10174, 11608, 12833 และ 16690 พร้อมสิ่งปลูกสร้างเพื่อขายทอดตลาด ต่อมาโจทก์ขอถอนการยึดทรัพย์เฉพาะที่ดินโฉนดเลขที่ 12833 และเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2536โจทก์ยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีว่า จำเลยทั้งสี่ได้ชำระหนี้ให้โจทก์ครบถ้วนแล้ว จึงขอถอนการบังคับคดีและการยึดทรัพย์ที่ดินที่เหลืออีก 5 แปลง พร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวเจ้าพนักงานบังคับคดีอนุญาต
เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2537 โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่าโจทก์ยื่นคำร้องขอถอนการบังคับคดีและการยึดทรัพย์ดังกล่าวเป็นการหลงผิด เนื่องจากเมื่อโจทก์รับแคชเชียร์เช็คของธนาคารศรีนคร จำกัด (มหาชน) สาขาช้างคลาน จากผู้จะซื้อที่ดินซึ่งถูกยึดทรัพย์ไว้ดังกล่าวโดยความยินยอมของจำเลยทั้งสี่แล้วโจทก์จึงยื่นคำร้องขอถอนการบังคับคดีและการยึดทรัพย์ดังกล่าวและโจทก์ได้รับ น.ส.3 กับโฉนดที่ดินคืนไปเพื่อดำเนินการจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองให้แก่จำเลยทั้งสี่ แต่ปรากฏว่าผู้จะซื้อกับจำเลยที่ 1 และที่ 3 ไม่สามารถตกลงกันได้และได้ยกเลิกการซื้อขายที่ดินดังกล่าวธนาคารศรีนคร จำกัด (มหาชน)สาขาช้างคลาน ได้ขอรับเงินซึ่งผู้จะซื้อนำมาชำระหนี้ของจำเลยทั้งสี่คืน โจทก์เห็นว่าเมื่อไม่มีการซื้อขายที่ดินต่อกันจึงได้คืนเงินดังกล่าวให้แก่ธนาคารศรีนคร จำกัด (มหาชน)สาขาช้างคลาน กรณีถือว่าโจทก์ยังไม่ได้รับชำระหนี้จากจำเลยทั้งสี่ครบถ้วน โจทก์จึงขอยึดทรัพย์ของจำเลยทั้งสี่ต่อไป
จำเลยทั้งสี่ยื่นคำคัดค้านว่า จำเลยทั้งสี่ชำระหนี้ตามคำพิพากษาให้แก่โจทก์ครบถ้วนแล้วโดยแคชเชียร์เช็คของธนาคารศรีนคร จำกัด (มหาชน) สาขาช้างคลาน ซึ่งเป็นเงินบางส่วนที่ผู้จะซื้อที่ดินจากจำเลยทั้งสี่ได้วางมัดจำตามสัญญาจะซื้อขาย เมื่อผู้จะซื้อผิดสัญญาจำเลยจึงริบเงินมัดจำตามแคชเชียร์เช็คดังกล่าว มูลหนี้ตามคำพิพากษาระหว่างโจทก์กับจำเลยทั้งสี่ย่อมระงับไปแล้ว การที่โจทก์คืนแคชเชียร์เช็คให้แก่ธนาคารศรีนคร จำกัด (มหาชน) สาขาช้างคลานเป็นการกระทำโดยพลการไม่ได้บอกกล่าวหรือได้รับความยินยอมจากจำเลยทั้งสี่แต่อย่างใด จำเลยทั้งสี่จึงไม่ต้องรับผิดต่อการกระทำของโจทก์ โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะบังคับคดีอีก ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษากลับ ให้โจทก์บังคับคดีต่อไปได้
จำเลยทั้งสี่ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้เป็นยุติว่าหลังจากโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินของจำเลยแล้วต่อมานางศุภกานต์ญา ประภาสะโนบล ได้ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินที่ถูกยึดกับฝ่ายจำเลย โดยนางศุภกานต์ญาได้ขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่ดินจากธนาคารศรีนคร จำกัด (มหาชน) สาขาช้างคลานและได้รับอนุมัติสินเชื่อแล้ว ธนาคารศรีนคร จำกัด (มหาชน)สาขาช้างคลาน ได้ออกแคชเชียร์เช็คจำนวน 6,200,945.44 บาทเพื่อให้นางศุภกานต์ญาใช้ชำระค่าซื้อที่ดิน ต่อมาได้มีการมอบแคชเชียร์เช็คดังกล่าวแก่โจทก์ และโจทก์ได้ขอถอนการยึดทรัพย์ที่ดินของฝ่ายจำเลยเพื่อจะได้จดทะเบียนโอนขายแก่นางศุภกานต์ญาและจดทะเบียนจำนองเป็นประกันหนี้ต่อธนาคารศรีนคร จำกัด (มหาชน)สาขาช้างคลาน ต่อไป
คดีมีประเด็นต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งสี่ว่าแคชเชียร์เช็คของธนาคารศรีนคร จำกัด (มหาชน) สาขาช้างคลานจำนวนเงิน 6,200,,945.44 บาท นั้น นางศุภกานต์ญาได้นำมาชำระค่าที่ดินล่วงหน้าแก่จำเลยตามสัญญาจะซื้อขาย จำเลยจึงมีสิทธินำไปมอบชำระหนี้ตามคำพิพากษาแก่โจทก์หรือไม่ ข้อนี้เห็นว่าข้อนำสืบของจำเลยทั้งสี่เป็นข้ออ้างลอย ๆ ไม่มีน้ำหนักให้น่ารับฟังส่วนโจทก์มีนายเชิดเกียรติ หุ่นจำลอง และนายอานนท์ อุทายะผู้จัดการและเจ้าหน้าที่สินเชื่อธนาคารศรีนคร จำกัด (มหาชน)สาขาช้างคลาน กับนายบรรจง สุขจิตภิญโญ ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารโจทก์ สาขาท่าแพเบิกความเป็นทำนองเดียวกันได้ความว่าโจทก์นางศุภกานต์ญาและธนาคารศรีนคร จำกัด (มหาชน)สาขาช้างคลาน ตกลงให้โจทก์ถือแคชเชียร์เช็คดังกล่าวไว้เป็นประกันในการที่ยอมถอนการยึดทรัพย์ที่ดินให้ หากต่อมาตกลงซื้อขายกันไม่ได้โจทก์จะคืนแคชเชียร์เช็คให้นั้น เห็นว่า ในการจดทะเบียนขายที่ดินระหว่างจำเลยที่ 2 กับนางศุภกานต์ญานั้นจะต้องมีการถอนการยึดทรัพย์ที่ดินของจำเลยที่ 2 ก่อน แล้วจึงจะจดทะเบียนไถ่ถอนจำนอง จดทะเบียนซื้อขายระหว่างจำเลยที่ 2 กับนางศุภกานต์ญาแล้วจดทะเบียนจำนองที่ดินนั้นประกันหนี้ของนางศุภกานต์ญาต่อธนาคารศรีนคร จำกัด (มหาชน) สาขาช้างคลาน ดังนั้นธนาคารศรีนคร จำกัด (มหาชน) สาขาช้างคลาน จึงต้องจ่ายเงินให้นางศุภกานต์ญาไปก่อนทั้งที่ยังไม่มีหลักทรัพย์จำนองเป็นประกัน ทั้งนี้เพื่อนำไปให้โจทก์ถอนการยึดทรัพย์เพื่อให้โจทก์ได้มีความมั่นใจว่า เมื่อได้มีการจดทะเบียนซื้อขายและจำนองดังกล่าวต่อไปสำเร็จแล้วโจทก์ก็จะได้รับชำระหนี้ตามจำนวนเงินในแคชเชียร์เช็คจากธนาคารศรีนคร จำกัด (มหาชน) สาขาช้างคลานแต่หากตกลงจดทะเบียนซื้อขายโอนกรรมสิทธิ์กันไม่สำเร็จธนาคารศรีนคร จำกัด (มหาชน) สาขาช้างคลาน ก็จำเป็นต้องได้แคชเชียร์เช็คคืน มิฉะนั้นเงินที่นางศุภกานต์ญาเป็นหนี้ตามที่ธนาคารศรีนคร จำกัด (มหาชน) สาขาช้างคลาน ออกแคชเชียร์เช็คนั้นให้ไปก่อนจะเป็นหนี้ที่ไม่สามารถจดทะเบียนจำนองที่ดินที่ซื้อขายเป็นประกันได้ จะทำให้ธนาคารศรีนคร จำกัด (มหาชน)สาขาช้างคลาน เสียหาย ข้อนำสืบของโจทก์ดังกล่าวนับว่ามีเหตุผลประกอบทำให้มีน้ำหนักน่าเชื่อ นอกจากนี้ยังได้ความว่า ในวันที่29 ธันวาคม 2536 โจทก์จำเลยทั้งสี่นางศุภกานต์ญาและธนาคารศรีนคร จำกัด (มหาชน) สาขาช้างคลาน พยายามดำเนินการให้มีการถอนการยึดทรัพย์แล้วจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์และจดทะเบียนจำนองภายในวันเดียวกัน แต่มีเหตุขัดข้องเกี่ยวกับเช็คที่จะจ่ายชำระค่าธรรมเนียมในการถอนการยึดทรัพย์ จึงดำเนินการไม่สำเร็จและได้ดำเนินการใหม่ในวันรุ่งขึ้น ซึ่งนางศุภกานต์ญาก็นำแคชเชียร์เช็คจำนวน 6,200,945.44 บาท ที่ลงวันที่29 ธันวาคม 2536 คืนธนาคารศรีนคร จำกัด (มหาชน) สาขาช้างคลานแล้วออกแคชเชียร์เช็คจำนวนเงินเท่าเดิมใหม่เป็นฉบับลงวันที่30 ธันวาคม 2536 เพื่อดำเนินการดังกล่าวแล้วต่อไป พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นชัดว่า นางศุภกานต์ญาและจำเลยทั้งสี่ไม่ได้ตกลงให้เอาแคชเชียร์เช็คดังกล่าวเป็นการชำระค่าที่ดินบางส่วนล่วงหน้าก่อน มิฉะนั้นก็ไม่น่าจะต้องนำแคชเชียร์เช็คกลับคืนไปออกแคชเชียร์เช็คฉบับใหม่อีก ดังนี้แสดงว่านางศุภกานต์ญาจะชำระค่าที่ดินโดยแคชเชียร์เช็คดังกล่าวก็เพื่อให้จำเลยที่ 2จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ให้นางศุภกานต์ญาในคราวเดียวภายในวันเดียวกัน เพียงแต่ต้องมอบแคชเชียร์เช็คให้โจทก์ก่อนเพื่อให้ขั้นตอนการถอนการยึดทรัพย์ซึ่งต้องกระทำก่อนการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์กระทำได้สำเร็จ ตามเหตุผลดังกล่าวข้างต้นจึงฟังได้ว่านางศุภกานต์ญาเจตนาจะชำระเงินค่าที่ดินตามแคชเชียร์เช็คนั้นให้แก่จำเลยที่ 2 เป็นค่าซื้อที่ดินโดยเงื่อนไขว่าต้องมีการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ให้นางศุภกานต์ญาได้ในวันเดียวกันนั้น มิใช่เป็นเงินชำระค่าที่ดินล่วงหน้าดังที่จำเลยทั้งสี่กล่าวอ้าง ดังนี้เมื่อจำเลยที่ 2 ยังไม่สามารถจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่นางศุภกานต์ญาได้ จำเลยที่ 2จึงยังไม่มีสิทธิได้รับเงินตามแคชเชียร์เช็คนั้นเป็นการชำระค่าที่ดิน การมอบแคชเชียร์เช็คให้โจทก์ยึดถือไว้เช่นนี้ย่อมถือไม่ได้ว่าจำเลยได้ชำระหนี้ตามคำพิพากษาแก่โจทก์โจทก์ย่อมจะคืนเช็คแก่ธนาคารศรีนคร จำกัด (มหาชน) สาขาช้างคลานตามข้อตกลงได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากจำเลยทั้งสี่และโจทก์มีสิทธิบังคับคดีต่อไปได้
พิพากษายืน

Share