แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ศาลจังหวัดราชบุรีมีคำสั่งรับคำฟ้องของโจทก์ไว้คดีจึงอยู่ในระหว่างพิจารณา เมื่อต่อมาศาลจังหวัดราชบุรีเห็นวาคดีไม่อยู่ในอำนาจได้สั่งให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบเกี่ยวกับคำฟ้องใหม่ว่าไม่รับคำฟ้องกรณีเช่นนี้ถือได้ว่ามีการพิจารณาคดีแล้ว หาใช่เป็นการตรวจคำฟ้องแล้วมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาไม่และคำสั่งดังกล่าวมีความหมายเป็นอย่างเดียวกันกับคำว่าศาลยกคดีเสียเพราะเหตุคดีไม่อยู่ในอำนาจศาลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 176 เดิม นั่นเองฉะนั้น เมื่อกำหนดอายุความในคดีของโจทก์สิ้นไปแล้วก่อนที่ศาลจังหวัดราชบุรีจะสั่งเพิกถอนคำสั่งรับคำฟ้องเป็นคำสั่งไม่รับคำฟ้องเพราะเหตุคดีไม่อยู่ในอำนาจศาลอายุความฟ้องคดีของโจทก์จึงขยายออกไปถึงหกเดือนนับแต่ศาลจังหวัดราชบุรีมีคำสั่ง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์เก๋งคันหมายเลขทะเบียน 1ผ-1844 กรุงเทพมหานคร ไว้จากนายมาโนช โพธิ์วิเชียรมีกำหนดอายุสัญญา 1 ปี จำเลยที่ 1 เป็นผู้เยาว์อยู่ในความปกครองดูแลของจำเลยที่ 2 มารดาจำเลยที่ 2 เป็นเจ้าของผู้ครอบครองรถยนต์เก๋งคันหมายเลขทะเบียน 7ง-4321 กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่16 มิถุนายน 2532 เวลาประมาณ 10.50 นาฬิกา ขณะที่นายมาโนชขับรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวบ่ายโฉมหน้าไปยังดอนเมืองตามถนนวิภาวดีรังสิตเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุหมู่บ้านมหานครนิเวศน์นายมาโนชชะลอความเร็วลงเนื่องจากมีรถยนต์เสียจอดอยู่ด้านหน้าจำเลยที่ 1 ขับรถยนต์โดยประมาทปราศจากความระมัดระวัง ไม่สามารถห้ามล้อหรือหยุดรถได้ทันจึงขับพุ่งชนท้ายรถยนต์ที่นายมาโนชขับได้รับความเสียหาย โจทก์นำรถยนต์ของนายมาโนชไปทำการซ่อมจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว เสียค่าแรงและค่าอะไหล่เป็นเงินทั้งสิ้น22,200 บาท การที่จำเลยที่ 1 ทำละเมิดและจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นมารดาไม่ใช่ความระมัดระวังดูแลจำเลยที่ 1 ตามสมควร จึงต้องร่วมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวพร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีคิดถึงวันฟ้องเป็นค่าเบี้ย 1,940 บาท ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชดใช้เงินจำนวน 24,140 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ในต้นเงิน 22,200 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยทั้งสองจะชำระเงินให้แก่โจทก์เสร็จสิ้น
จำเลยทั้งสองให้การว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 22,200 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2532 จนกว่าชำระเสร็จแก่โจทก์ แต่ดอกเบี้ยถึงวันฟ้องคิดให้ไม่เกิน 1,940 บาท
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความเพราะการขยายอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 176 (เดิม) ต้องเป็นกรณีที่ศาลรับฟ้องไว้พิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง การที่โจทก์ฟ้องต่อศาลจังหวัดราชบุรี และศาลได้รับคำฟ้องไว้แล้วต่อมามีคำสั่งเป็นไม่รับคำฟ้องเนื่องจากคดีไม่อยู่ในอำนาจนั้นถือว่าคดียังไม่มีการพิจารณาและศาลสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาอายุความจึงไม่ขยายออกไป
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า เหตุละเมิดเกิดเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2532 ที่แขวงลาดยาว เขตจตุจักรกรุงเทพมหานคร โจทก์ได้ยื่นฟ้องจำเลยทั้งสองต่อศาลจังหวัดราชบุรีเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2533 ซึ่งอยู่ภายในอายุความ 1 ปี ต่อมาความปรากฏต่อศาลจังหวัดราชบุรีว่า จำเลยทั้งสองได้ย้ายภูมิลำเนาไปอยู่ที่แขวงบางยี่ขัน เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานครแล้วตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 2533 ศาลจังหวัดราชบุรีจึงมีคำสั่งให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบเกี่ยวกับคำฟ้องใหม่ว่าไม่รับคำฟ้องเพราะคดีไม่อยู่ในอำนาจเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2533โจทก์จึงมาฟ้องจำเลยทั้งสองเป็นคดีนี้เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2534มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า อายุความฟ้องคดีได้ขยายออกไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 176 เดิม ซึ่งเป็นบทกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะที่ฟ้องคดีนี้หรือไม่ พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า กฎหมายมาตราดังกล่าวได้บัญญัติว่า “ถ้าศาลยกคดีเสียเพราะเหตุคดีไม่อยู่ในอำนาจศาลและกำหนดอายุความสิ้นไปแล้วในระหว่างพิจารณาก็ดีหรือจะสิ้นลงในระหว่างหกเดือนภายหลังที่ได้พิพากษาคดีถึงที่สุดก็ดีท่านให้ขยายอายุความนั้นออกไปถึงหกเดือนภายหลังคำพิพากษานั้น”และคำว่า “การพิจารณา” ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งได้ให้บทวิเคราะห์ศัพท์ไว้ในมาตรา 1(8) ว่า “หมายความว่ากระบวนพิจารณาทั้งหมดในศาลใดศาลหนึ่ง ก่อนศาลนั้นชี้ขาดตัดสินหรือจำหน่ายคดีโดยคำพิพากษาหรือคำสั่ง” ดังนี้นับแต่วันที่ศาลจังหวัดราชบุรีมีคำสั่งรับคำฟ้องของโจทก์ไว้ คดีจึงอยู่ในระหว่างพิจารณา เมื่อต่อมาศาลจังหวัดราชบุรีเห็นว่าคดีไม่อยู่ในอำนาจได้สั่งให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบเกี่ยวกับคำฟ้องใหม่ว่าไม่รับคำฟ้อง กรณีเช่นนี้ถือได้ว่ามีการพิจารณาคดีแล้วหาใช่เป็นการตรวจคำฟ้องแล้วมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาไม่และคำสั่งดังกล่าวมีความหมายเป็นอย่างเดียวกันกับคำว่าศาลยกคดีเสียเพราะเหตุไม่อยู่ในอำนาจศาลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 176 เดิม นั่นเอง ฉะนั้น เมื่อกำหนดอายุความในคดีของโจทก์สิ้นไปแล้วก่อนที่ศาลจังหวัดราชบุรีจะสั่งเพิกถอนคำสั่งรับคำฟ้องเป็นคำสั่งไม่รับคำฟ้องเพราะเหตุคดีไม่อยู่ในอำนาจศาล อายุความฟ้องคดีของโจทก์จึงขยายออกไปถึงหกเดือนนับแต่ศาลจังหวัดราชบุรีมีคำสั่ง โจทก์ฟ้องคดีนี้ภายในกำหนดดังกล่าวฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ พิพากษาศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว”
พิพากษายืน