แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยนำอาวุธมีดสปริงที่จำเลยติดตัวอยู่ออกมาโดยมิได้ ง้างมีดสปริงออกในลักษณะที่สามารถใช้แทงทำร้ายได้ ทั้งมิได้ ใช้มีดสปริงขู่เข็ญบังคับให้ผู้เสียหายยอมให้จำเลยกระทำชำเรา ถือไม่ได้ว่าจำเลยได้ใช้มีดสปริงในการกระทำชำเราผู้เสียหาย จำเลยจึงมีความผิดฐานกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาของตนตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคแรก
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกันกล่าวคือจำเลยได้พรากเด็กหญิงน้องแหม่ม กองสูงเนินผู้เสียหาย อายุ 14 ปี ไปเสียจากนายประจวบ กองสูงเนินบิดาและนางสาวดวงพร กองสูงเนิน ผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุอันสมควรและเพื่อการอนาจาร และจำเลยได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายซึ่งมิใช่ภริยาของจำเลย โดยใช้อาวุธมีดสปริง 1 เล่มจี้ขู่เข็ญและใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้เสียหายไม่ยินยอมรวม 2 ครั้ง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277, 317, 91
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคสาม, 317 วรรคแรกเรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90(ที่ถูกคือมาตรา 91) จำเลยอายุไม่เกิน 20 ปี เมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้วเห็นว่ายังไม่รุนแรงเกินเหตุ ประกอบกับหลังเกิดเหตุจำเลยรู้สึกสำนึกในความผิดและรับผิดชอบต่อการกระทำโดยแต่งงานอยู่กินฉันสามีภรรยากับผู้เสียหายเห็นสมควรลดมาตราส่วนโทษลงกระทงละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 ฐานพรากเด็กอายุไม่เกิน15 ปี จำคุก 1 ปี 6 เดือน ฐานกระทำชำเราเด็กหญิงโดยใช้อาวุธ จำคุก 25 ปี รวมจำคุก 26 ปี 6 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา นับเป็นเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คงจำคุก 13 ปี 3 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคแรก, 317 วรรคแรกเรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91จำเลยอายุไม่เกิน 20 ปี เห็นสมควรลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 ฐานพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี จำคุก 1 ปี 6 เดือน ฐานกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาของตนจำคุก 2 ปีรวมจำคุก 3 ปี 6 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี ลดโทษกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 จำคุก 1 ปี 9 เดือน ให้รอการลงโทษจำเลยไว้มีกำหนด 3 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พยานหลักฐานของโจทก์จึงมีน้ำหนักให้ฟังได้แต่เพียงว่า จำเลยได้นำอาวุธมีดสปริงซึ่งจำเลยมีติดตัวอยู่ออกมาเท่านั้น ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยนำอาวุธมีดสปริงที่จำเลยมีติดตัวอยู่ออกมาโดยมิได้ง้างมีดสปริงออกในลักษณะที่สามารถใช้แทงทำร้ายได้ ทั้งมิได้ใช้อาวุธมีดสปริงขู่เข็ญบังคับให้ผู้เสียหายยอมให้จำเลยกระทำชำเรานั้น ถือไม่ได้ว่าจำเลยได้ใช้อาวุธมีดสปริงในการกระทำชำเราผู้เสียหายที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 วินิจฉัยว่าจำเลยมีความผิดฐานกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาของตนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคแรก นั้นต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกาแล้ว”
พิพากษายืน