คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3888/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ดวงตราที่ประทับในใบแต่งทนายความของโจทก์เหมือนกับที่จดทะเบียนไว้ตามหนังสือรับรองการจดทะเบียน ต่างกันแต่เพียงขนาด เมื่อไม่ปรากฎว่ามีระเบียบข้อบังคับของกรมทะเบียนการค้าว่าดวงตราที่ประทับจะต้องมีขนาดเท่ากับดวงตราที่จดทะเบียนไว้ ถือไม่ได้ว่าโจทก์ใช้ดวงตราที่ไม่ถูกต้องประทับในใบแต่งทนาย ทั้งในระหว่างสืบพยานโจทก์โจทก์ได้ยื่นใบแต่งทนายใหม่มีกรรมการลงชื่อและประทับตราถูกต้องตามข้อบังคับต่อศาล และให้สัตยาบันแก่กระบวนพิจารณาที่ทนายโจทก์ดำเนินไปแล้ว ศาลชั้นต้นอนุญาต การยื่นฟ้องของโจทก์จึงชอบด้วยกฎหมาย โจทก์มีอำนาจฟ้อง โจทก์ฟ้องในฐานะผู้รับประกันภัยซึ่งได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เอาประกันภัยไปแล้ว จึงรับช่วงสิทธิมาฟ้องเรียกเอาแก่จำเลยผู้ขนส่ง มิใช่ฟ้องให้บังคับตามสัญญาประกันภัยจึงไม่อยู่ในบังคับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 867 วรรคหนึ่งที่จะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดมาแสดงและไม่ตกอยู่ในบังคับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 เพราะมิใช่กรณีที่กฎหมายบังคับให้ต้องมีพยานเอกสารมาแสดง ข้อตกลงใช้ค่าเสียหายตามบันทึกประจำวันซึ่งตัวแทนฝ่ายจำเลยทำกับตัวแทนฝ่ายบริษัทผู้ส่งภายหลังเกิดเหตุไม่ชัดเจน ไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับค่าเสียหายที่เกิดขึ้นว่ามีจำนวนเท่าใดแน่นอน ไม่อาจระงับข้อพิพาทที่จะเกิดขึ้นให้เสร็จไปด้วยต่างผ่อนผันให้แก่กัน ไม่เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ เครื่องปิดฉลากอากรแสตมป์ขวดสุราเป็นเพียงสินค้าธรรมดาสามัญทั่วไปที่มีราคาสูงเท่านั้น ไม่ใช่ของมีค่าพิเศษตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 620 การขนส่งเครื่องปิดฉลากดังกล่าวมีผู้ขนส่งหลายคนคือจำเลยที่ 1 ที่ 3 ที่ 5 ซึ่งเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดมีวัตถุประสงค์รับขนส่ง เมื่อของที่ขนส่งบุบสลาย จำเลยที่ 1ที่ 3 ที่ 5 ผู้ขนส่งทั้งนั้นจึงต้องร่วมกันรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 618 จำเลยที่ 2 ที่ 4ที่ 6 ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่ 1 ที่ 3 และที่ 5จึงต้องร่วมรับผิดด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นนิติบุคคล จำเลยที่ 1 ที่ 3 และ ที่ 5เป็นนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนจำกัด มีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการรับขนส่งสินค้า โดยมีจำเลยที่ 2 ที่ 4 และที่ 6 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ โจทก์รับประกันภัยการขนส่งเครื่องปิดฉลากอากรแสตมป์ขวดสุราของบริษัทสุราทิพย์ยุคนธร จำกัด ผู้เอาประกันภัยโดยสัญญาว่าหากเครื่องจักรได้รับความเสียหายในระหว่างการขนส่งโจทก์จะชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เอาประกันภัย จำเลยที่ 1 ที่ 3ที่ 5 และที่ 7 ได้ร่วมกันรับขนเครื่องจักรดังกล่าวโดยจำเลยที่ 1เป็นผู้ตกลงรับจ้างจากบริษัทสุราทิพย์ยุคนธร จำกัด แล้วจำเลยที่ 1ว่าจ้างมอบหมายให้จำเลยที่ 3 เป็นผู้ร่วมรับขนอีกทอดหนึ่งและจำเลยที่ 3 ว่าจ้างมอบหมายให้จำเลยที่ 5 เป็นผู้ร่วมรับขนทอดสุดท้ายโดยนำรถยนต์บรรทุกของตนเข้าทำการขนส่ง มีจำเลยที่ 7 ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 3 เป็นผู้ขับ ต่อมาจำเลยที่ 7 ขับรถยนต์บรรทุกคันดังกล่าวบรรทุกเครื่องปิดฉลากอากรแสตมป์ขวดสุราที่โจทก์รับประกันภัยด้วยความประมาทเลินเล่อ เป็นเหตุให้เครื่องจักรดังกล่าว2 เครื่องชนครูด ไปกับสะพานรถไฟได้รับความเสียหายโจทก์ได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เอาประกันภัยไปแล้ว จำเลยที่ 2ที่ 4 และที่ 6 ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการต้องร่วมกับจำเลยที่ 1 ที่ 3ที่ 5 และที่ 7 รับผิดต่อโจทก์ ขอให้บังคับจำเลยทั้งเจ็ดร่วมกันใช้เงิน 844,876 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยที่ 1 ถึงที่ 6 ให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 2 ไม่เคยมอบหมายให้จำเลยที่ 5 ที่ 6 ที่ 7ขนสินค้าตามฟ้อง จำเลยที่ 3 ไม่เคยรับจ้างบริษัทสุราทิพย์ยุคนธรจำกัด หรือร่วมกับจำเลยที่ 1 ที่ 5 ที่ 7 ขนส่งเครื่องจักรดังกล่าวและ จำเลยที่ 7 ไม่ได้เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 3 หรือจำเลยที่ 5จำเลยที่ 5 ที่ 6 ไม่เคยรับจ้างหรือร่วมกับจำเลยอื่นขนส่งเครื่องจักรดังกล่าว จำเลยที่ 7 เป็นลูกจ้างของนายสุชาติซึ่งได้ประนีประนอมยอมความใช้ค่าเสียหายแก่บริษัทสุราทิพย์ยุคนธร จำกัด แล้วผู้ว่าจ้างและผู้ส่งปกปิดไม่บอกราคาหรือสภาพสิ่งของที่ขนส่งจึงไม่ต้องรับผิด ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 7 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งเจ็ดร่วมกันใช้เงินพร้อมด้วยดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ตามฟ้อง
จำเลยที่ 1 ถึงที่ 6 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ถึงที่ 6 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ดวงตราที่ประทับในใบแต่งทนายความของโจทก์มีรูปร่าง ลักษณะ และรายละเอียดตัวอักษรในดวงตราเหมือนกับดวงตราที่จดทะเบียนไว้ตามหนังสือรับรองทุกประการ ต่างกันแต่เพียงขนาด กรมทะเบียนการค้าก็ไม่มีระเบียบข้อบังคับว่าดวงตราที่ใช้ประทับจะต้องมีขนาดเท่าดวงตราที่จดทะเบียนไว้ จึงถือไม่ได้ว่าโจทก์ใช้ดวงตราที่ไม่ถูกต้องตามข้อบังคับประทับในใบแต่งทนายความ และในระหว่างสืบพยานโจทก์ โจทก์ได้ยื่นใบแต่งทนายความใหม่ มีกรรมการของบริษัทสองคนลงชื่อและประทับตราถูกต้องตามข้อบังคับที่จดทะเบียนไว้ต่อศาล และให้สัตยาบันแก่กระบวนพิจารณาที่ทนายโจทก์ได้ดำเนินไปแล้ว ศาลชั้นต้นอนุญาต การยื่นคำฟ้องของโจทก์จึงชอบด้วยกฎหมาย โจทก์มีอำนาจฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นผู้รับประกันภัยในการรับขนเครื่องจักรของบริษัทสุราทิพย์ยุคนธร จำกัด ผู้เอาประกันภัยซึ่งได้ว่าจ้างให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 6 ขนส่งเครื่องจักร และได้เสียหายในระหว่างการขนส่งอันจำเลยที่ 1 ถึงที่ 6 จะต้องร่วมกันรับผิด โจทก์ชดใช้ค่าเสียหายตามกรมธรรม์ประกันภัยแก่ผู้เอาประกันภัยไปแล้ว จึงได้รับช่วงสิทธิตามกฎหมายมาฟ้องเรียกเอาแก่จำเลยผู้ขนส่ง ไม่ใช่กรณีที่ฟ้องร้องให้บังคับคดีตามสัญญาประกันภัย จึงไม่อยู่ในบังคับของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 867 วรรคหนึ่ง อันจะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดมาแสดงจึงจะฟ้องร้องบังคับคดีได้ และไม่ตกอยู่ภายในบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 เพราะมิใช่กรณีมีกฎหมายบังคับให้ต้องมีพยานเอกสารมาแสดง คำพยานบุคคลของโจทก์ก็ฟังได้โดยไม่ต้องอาศัยเอกสาร
ข้อตกลงใช้ค่าเสียหายตามบันทึกประจำวันซึ่งตัวแทนฝ่ายจำเลยทำกับตัวแทนบริษัทผู้ส่งภายหลังเกิดเหตุ ไม่ชัดเจน ไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับค่าเสียหายที่เกิดขึ้นว่ามีจำนวนเท่าใดแน่นอน จึงไม่อาจระงับข้อพิพาทที่จะมีขึ้นให้เสร็จไปด้วยต่างผ่อนผันให้แก่กัน ไม่เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ สิทธิที่จะเรียกค่าเสียหายของบริษัทผู้ส่งจากจำเลยผู้ขนส่งจึงไม่ระงับ โจทก์มีอำนาจรับช่วงสิทธิจากบริษัทดังกล่าวมาฟ้องเรียกเอาแก่จำเลยได้
เครื่องปิดฉลากอากรแสตมป์ขวดสุรา แม้จะมีราคาหลายล้านบาทแต่ก็เป็นสินค้าธรรมดาสามัญทั่วไปที่มีราคาสูงเท่านั้น ไม่ใช่ของมีค่าพิเศษตามความหมายในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 620จำเลยจึงไม่อาจยกมาตราดังกล่าวขึ้นปฏิเสธความรับผิด
การขนส่งเครื่องปิดฉลากอากรแสตมป์ขวดสุราของบริษัทสุราทิพย์ยุคนธร จำกัด จากกรุงเทพมหานครไปยังโรงงานที่จังหวัดอุบลราชธานีมีผู้ขนส่งหลายคนคือ จำเลยที่ 1 ที่ 3 ที่ 5ซึ่งเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดที่มีวัตถุประสงค์รับขนส่ง เมื่อของที่ขนส่งหลายคนบุบสลายเสียหายในระหว่างการขนส่ง จำเลยที่ 1 ที่ 3 ที่ 5ผู้ขนส่งทั้งนั้นจึงต้องร่วมกันรับผิดในความเสียหายดังกล่าว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 618 จำเลยที่ 2 ที่ 4 ที่ 6ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่ 1 ที่ 3 ที่ 5จึงต้องร่วมรับผิดด้วย
พิพากษายืน

Share