คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3250/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นผู้จัดการมรดกของนางจ.ผู้ตาย การที่จำเลยเพียงแต่ยื่นคำร้องขอโอนที่ดินเป็นของจำเลยทั้งหมดโดยไม่แจ้งให้โจทก์ทราบ มิใช่การยักย้ายหรือปิดบังทรัพย์มรดกส่วนที่จำเลยรับชำระหนี้แล้วไม่แบ่งเงินแก่โจทก์ทั้งห้าทันทีนั้นเมื่อการจัดการมรดกยังไม่เสร็จ จำเลยก็มีอำนาจเก็บรักษาเงินดังกล่าวไว้เพื่อแบ่งแก่ทายาทต่อไปได้การที่จำเลยยังไม่แบ่งเงินแก่โจทก์ทั้งห้าทันทีจึงไม่เป็นการยักย้ายหรือปิดบังทรัพย์มรดกเช่นเดียวกัน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกของนางสาวแจ่มผู้ตาย และจำเลยนำสำเนาคำสั่งดังกล่าวไปแสดงต่อโจทก์ที่ 1 และโจทก์ที่ 2 และขอรับสัญญากู้ที่ลูกหนี้ทำไว้กับผู้ตายเพื่อนำไปทวงถามเงินตามสัญญากู้จากลูกหนี้แล้วจะนำมาแบ่งปันระหว่างทายาทพร้อมกับทรัพย์มรดกอื่น คือที่ดิน 4 แปลง บ้าน 1 หลัง และยุ้งข้าว 1 หลัง ภายในกำหนด 7 วัน แต่เมื่อครบกำหนดจำเลยไม่นำเงินมาแบ่งปันและไม่ยอมแบ่งทรัพย์มรดก อื่น ต่อมาโจทก์ทราบว่าจำเลยได้รับชำระหนี้ตามสัญญากู้จากนายทิ้ม 1,000 บาท และจำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกของผู้ตายได้โอนที่ดิน บ้านและยุ้งข้าว ซึ่งเป็นทรัพย์มรดกไปเป็นของจำเลยแต่ผู้เดียว อันเป็นการยักย้าย ปิดบังทรัพย์มรดกทั้งหมดโดยฉ้อฉลและรู้อยู่ว่าตนทำให้เสื่อมประโยชน์แก่โจทก์ทั้งห้าจำเลยจึงต้องถูกกำจัดมิให้รับมรดกของผู้ตายทั้งหมด ขอให้พิพากษาว่าจำเลยถูกกำจัดมิให้รับมรดกทั้งหมดของผู้ตาย และขอให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนทรัพย์ตามบัญชีทรัพย์ท้ายฟ้อง ให้ทรัพย์ทั้งหมดกลับคืนมาเป็นทรัพย์มรดกของผู้ตายเพื่อแบ่งปันแก่ทายาท ให้จำเลยส่งมอบสัญญากู้คืนแก่โจทก์ทั้งห้า และโจทก์ทั้งห้ามีสิทธิรับมรดกคนละหนึ่งในเจ็ดส่วน กับให้นำทรัพย์มรดกส่วนของจำเลยที่ถูกกำจัดมิให้รับมรดก มาแบ่งปันแก่โจทก์ทั้งห้าคนละส่วนเท่า ๆ กัน
จำเลยให้การว่า จำเลยโอนทรัพย์มรดกของนางสาวแจ่มเป็นของจำเลยตามข้อตกลงแบ่งทรัพย์มรดก จำเลยไม่ได้ยักย้ายหรือปิดทรัพย์มรดกโดยฉ้อฉล หรือรู้อยู่ว่าทำให้เสื่อมประโยชน์แก่โจทก์ทั้งห้า ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยถูกกำจัดมิให้รับมรดกทั้งหมดของนางสาวแจ๋ม ผู้ตาย ให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนที่ดินตาม น.ส.3 ก.เลขที่ 2204, 2391, 5047 และ 5040 และยุ้งข้าวกับบ้าน ให้กลับมาเป็นทรัพย์มรดกของนางสาวแจ๋ม ให้จำเลยส่งมอบสัญญากู้เงินหรือเงินของลูกหนี้ผู้ตายรายนายเฉลย จำนวนเงิน 5,000 บาท รายนั้นทิ้มจำนวน 2,000 บาท รายนายหลาบ จำนวน 1,000 บาท รายนายละออจำนวน 500 บาท และรายนายละออง จำนวน 1,000 บาท ให้แก่โจทก์ทั้งห้า และให้แบ่งทรัพย์มรดกของนางสาวแจ่ม ทั้งหมดดังกล่าวแก่โจทก์ทั้งห้ามคนละหนึ่งในหกส่วนเท่ากัน หากตกลงแบ่งกันไม่ได้ให้ประมูลราคากันเองระหว่างทายาทของนางสาวแจ่ม ที่มีสิทธิรับมรดกแล้วนำเงินที่ได้มาแบ่งกันตามส่วน หากไม่เป็นที่ตกลงกันให้นำทรัพย์มรดกออกขายทอดตลาด นำเงินมาแบ่งกันตามส่วน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยไม่ถูกกำจัดมาให้ได้มรดก จึงมีสิทธิได้รับทรัพย์มรดกของนางสาวแจ่ม ผู้ตายร่วมกับโจทก์ทั้งห้าและทายาทอื่นของผู้ตาย ให้แบ่งทรัพย์มรดกของผู้ตายทั้งหมดให้แก่โจทก์ทั้งห้าและจำเลยคนละหนึ่งในเจ็ดส่วน และจำเลย ไม่ต้องส่งมอบสัญญากู้ยืมเงินที่ได้รับชำระหนี้จากลูกหนี้ตามบัญชีทรัพย์อันดับ 7 ถึง 11 (เอกสารท้ายฟ้อง) ให้แก่โจทก์ทั้งห้า
โจทก์ทั้งห้าฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ทั้งห้าว่า การที่จำเลยซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกไปยื่นคำร้องขอโอนที่ดินมรดกทั้งสี่แปลงเป็นของจำเลยทั้งหมด โดยไม่แจ้งให้โจทก์ทั้งห้าทราบกับรับชำระหนี้จากลูกหนี้ของผู้ตายแล้วไม่แบ่งเงินแก่โจทก์ทั้งห้าทันที ถือว่าจำเลยยักย้ายหรือปิดบังทรัพย์มรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1605 แล้วหรือไม่ ในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าว ศาลฎีกาจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ได้วินิจฉัยจากพยานหลักฐานในสำนวน คดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ฟังข้อเท็จจริงว่า เมื่อศาลตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกของนางแจ่ม ผู้ตายแล้วจำเลยไปขอโอนที่ดินมรดกทั้งสี่แปลงไปเป็นของจำเลยทั้งหมดโดยไม่แจ้งให้โจทก์ทั้งห้าทราบ และขณะที่ยังจัดการมรดกไม่เสร็จนั้น จำเลยรับชำระหนี้จากลูกหนี้ของผู้ตาย แล้วยังไม่นำมาแบ่งแก่โจทก์ทั้งห้า เห็นว่าการที่จำเลยเพียบแต่ยื่นคำร้องขอโอนที่ดินเป็นของจำเลยนั้นมิใช่การยักย้ายหรือปิดบังทรัพย์มรดก ส่วนที่จำเลยรับชำระหนี้แล้วไม่แบ่งเงินแก่โจทก์ทั้งห้าทันทีนั้น เมื่อข้อเท็จจริงปรากฎตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ว่าการจัดการมรดกยังไม่เสร็จจำเลยก็มีอำนาจเก็บรักษาเงินดังกล่าวไว้เพื่อแบ่งแก่ทายาทต่อไปได้ การที่จำเลยยังไม่แบ่งเงินแก่โจทก์ทั้งห้าทันทีจึงไม่เป็นการยักย้ายหรือปิดบังทรัพย์มรดกเช่นเดียวกันจำเลยจึงไม่ถูกกำจัดมิให้ได้มรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1605
พิพากษายืน

Share