คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 903/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยปรับโจทก์ตามสัญญาโดยหักเงินค่าปรับไว้จากเงินค่าจ้างเมื่อศาลพิพากษาลดค่าปรับลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 383 วรรคแรก ให้จำเลยคืนเงินค่าปรับบางส่วนแก่โจทก์โจทก์หามีสิทธิได้ดอกเบี้ยจากเงินค่าปรับที่ได้รับคืนนั้นไม่เพราะการที่จำเลยหักเงินค่าปรับไว้เป็นการใช้สิทธิตามสัญญาจ้างซึ่งเป็นสิทธิโดยชอบที่จำเลยจะกล่าวอ้างได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญาจ้างโจทก์ก่อสร้างอาคารเรียนจำนวน1 หลัง ตกลงแบ่งชำระเงินตามผลงานที่ก่อสร้างเป็นงวดรวม 5 งวดในงวดที่ 5 ซึ่งเป็นงวดสุดท้าย เมื่อโจทก์ก่อสร้างเสร็จโจทก์มีหนังสือแจ้งให้ผู้แทนของจำเลยทราบเพื่อทำการตรวจรับงานพร้อมกับขอเบิกเงินค่าก่อสร้างงวดดังกล่าว ผู้แทนของจำเลยแจ้งว่างานก่อสร้างงวดที่ 5 ยังไม่แล้วเสร็จ โดยโจทก์มิได้ทำการต่อเชื่อมสายไฟฟ้าจากสายประธานของการไฟฟ้าจังหวัดหนองคายไปยังสายไฟฟ้าภายนอกอาคารเรียนเข้าสู่ตัวอาคารเพื่อให้ใช้การได้ จึงให้โจทก์ดำเนินการดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน 15 วันการกระทำของจำเลยเป็นการผิดสัญญา เพราะงานดังกล่าวเป็นงานที่อยู่นอกเหนือสัญญาและแบบแปลนตลอดจนรายการประกอบแบบก่อสร้าง ถือได้ว่าเป็นงานที่ให้กระทำขึ้นใหม่ ซึ่งจำเลยจะต้องเสียค่าจ้างให้แก่โจทก์อีกต่างหาก แต่เพื่อมิให้เกิดความเสียหายแก่จำเลย โจทก์ได้ดำเนินการติดต่อกับการไฟฟ้าจังหวัดหนองคายให้ทำการขยายเขตการจำหน่ายกระแสไฟฟ้า มายังบริเวณที่ก่อสร้างจำเลยได้จ่ายเงินให้โจทก์เฉพาะค่าจ้างงวดสุดท้ายจำนวน 561,246 บาทโดยไม่จ่ายเงินค่าใช้จ่ายที่โจทก์ได้ชำระให้แก่การไฟฟ้าจังหวัดหนองคายเป็นค่าติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าและเชื่อมสายไฟฟ้าดังกล่าวจำนวน221,317 บาท นอกจากนี้จำเลยยังหักเงินค่าจ้างไว้เป็นค่าปรับฐานผิดสัญญาอีกด้วย โดยอ้างว่าโจทก์ทำงานล่าช้าไม่เสร็จตามกำหนด การที่จำเลยหักเงินค่าก่อสร้างงวดสุดท้ายไว้เป็นค่าปรับเป็นการมิชอบจำเลยต้องชำระเงินดังกล่าวคืนให้แก่โจทก์ และค่าเสียหายที่จำเลยคิดจากค่าปรับเป็นจำนวนสูงเกินส่วน ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและเชื่อมสายไฟฟ้ากับดอกเบี้ย และเงินค่าปรับกับดอกเบี้ยกับชำระดอกเบี้ยของต้นเงินค่าติดตั้งและเชื่อมสายไฟฟ้าและต้นเงินค่าปรับ นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยมิได้ผิดสัญญาตามฟ้อง โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาเนื่องจากโจทก์มิได้ทำการเชื่อมสายไฟฟ้าจากสายไฟฟ้าประธานของการไฟฟ้าจังหวัดหนองคายมายังสายไฟฟ้าภายนอกและภายในอาคารเรียนที่ก่อสร้างเพื่อให้ใช้การได้โดยผ่านมิเตอร์ไฟฟ้าซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชำระเงินค่าเชื่อมสายไฟฟ้าแก่โจทก์นอกจากนี้โจทก์ส่งมอบงานล่าช้าเกินกำหนดเวลาจำเลยจึงมีสิทธิหักเงินค่าจ้างงวดสุดท้ายเป็นค่าปรับตามสัญญาได้ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระเงินค่าจ้างอีก 119,600 บาท พร้อมดอกเบี้ยในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ 24กรกฎาคม 2529 จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
โจทก์และจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาข้อเท็จจริง การทำสัญญาจ้างก่อสร้างอาคารเรียนนั้น เป็นงานรวมถึงการต่อเชื่อมสายไฟฟ้าจากสายประธานของการไฟฟ้าจังหวัดหนองคายไปยังสายไฟฟ้านอกอาคารเรียนเข้าสู่ตัวอาคารโรงเรียนด้วย จำเลยจึงไม่ต้องชำระค่าใช้จ่ายในการต่อเชื่อมสายไฟฟ้าดังกล่าวให้แก่โจทก์ และโจทก์ส่งมอบงานล่าช้า ส่วนในเรื่องค่าปรับนั้น ค่าปรับหรือเบี้ยปรับถือได้ว่าเป็นค่าเสียหายจำนวนหนึ่งอันอาจมีหรือเกิดขึ้นเนื่องจากคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดสัญญาทั้งคู่สัญญากำหนดล่วงหน้าในสัญญา เพื่อให้ฝ่ายที่ผิดสัญญาชดใช้ให้แก่ฝ่ายที่มิได้ผิดสัญญาแต่ก็มิได้บังคับไว้โดยเด็ดขาดว่าจะต้องเป็นไปตามนั้น ฉะนั้น ศาลจึงอาจใช้ดุลพินิจลดจำนวนค่าปรับหรือเบี้ยปรับตามสัญญานั้นลงได้ คดีนี้จำเลยนำสืบว่าการที่โจทก์สร้างอาคารเรียนไม่เสร็จตามกำหนดในสัญญา จึงไม่สามารถรับนักเรียนเพิ่มขึ้น โจทก์ไม่โต้แย้งในข้อนี้ จึงฟังได้ว่าจำเลยได้รับความเสียหายในส่วนนี้ ส่วนการปฏิบัติราชการของบุคคลาการของจำเลยเกี่ยวกับคดีที่โจทก์ฟ้อง ก็ถือได้ว่าเป็นการปฏิบัติราชการในหน้าที่ส่วนหนึ่ง ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 กำหนดจำนวนเงินค่าปรับให้แก่จำเลยเหมาะสมแก่รูปคดีแล้ว
ที่จำเลยฎีกาว่า แม้ศาลจะใช้ดุลพินิจลดค่าปรับให้แก่โจทก์แต่จำเลยก็ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยแก่โจทก์นับจากวันที่จำเลยปรับโจทก์จนกว่าจำเลยจะชำระค่าปรับคืนแก่โจทก์เสร็จนั้น เห็นว่าเมื่อโจทก์ผิดสัญญาก่อสร้างอาคารเรียนส่งมอบให้จำเลยล่าช้ากว่ากำหนดจำเลยจึงปรับโจทก์ตามสัญญาโดยหักเงินค่าปรับไว้จากเงินค่าจ้าง เมื่อศาลพิพากษาลดค่าปรับลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 วรรคแรกให้จำเลยคืนเงินค่าปรับบางส่วนแก่โจทก์ โจทก์หามีสิทธิได้ดอกเบี้ยจากเงินค่าปรับที่ได้รับคืนนั้นไม่ เพราะการที่จำเลยหักเงินค่าปรับไว้เป็นการใช้สิทธิตามสัญญาจ้าง
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยไม่ต้องชำระดอกเบี้ยในต้นเงิน119,600 บาท ให้แก่โจทก์

Share