คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4766/2536

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์ไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลภาษีอากรกลางก่อนวันชี้สองสถานไม่น้อยกว่า 7 วัน แต่ได้ยื่นคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยาน ศาลสั่งว่ารอไว้สั่งวันนัดชี้สองสถานครั้นถึงวันนัดชี้สองสถานศาลสอบจำเลยแล้ว จำเลยคัดค้านศาลจึงนัดไต่สวนคำร้องของ โจทก์ โดยเลื่อนการชี้สองสถานในวันดังกล่าวไป เพื่อทำการไต่สวนคำร้องก่อน การที่ไม่ได้มีการชี้สองสถานจริง ๆ จึงเกิดจากเหตุที่โจทก์มิได้ยื่นบัญชีระบุพยานภายในกำหนดเวลา กรณีเช่นนี้จะถือเอาการชี้สองสถานจริง ๆ เป็นหลักในการนับระยะเวลายื่นบัญชีระบุพยานตามข้อกำหนดคดีภาษีอากร ข้อ 8 วรรคหนึ่งไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการประเมินภาษีเงินได้นิติบุคคลของเจ้าพนักงานประเมินของจำเลย และให้เพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ถ้าศาลไม่เพิกถอนการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ข้างต้น ก็ขอศาลสั่งให้จำเลยงดเรียกเบี้ยปรับและเงินเพิ่มจากโจทก์
จำเลยให้การว่า การประเมินภาษีเงินได้นิติบุคคลของเจ้าพนักงานประเมินของจำเลย และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เป็นการชอบด้วยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายทุกประการแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลภาษีอากรกลางมีคำสั่งให้งดการชี้สองสถาน งดการสืบพยานและพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า “คดีนี้โจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2535 จำเลยยื่นคำให้การต่อสู้คดีศาลภาษีอากรกลางนัดชี้สองสถานในวันที่ 22 เมษายน 2535 เวลา13.30 นาฬิกา คู่ความจะต้องยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันชี้สองสถานไม่น้อยกว่า 7 วัน ตามข้อกำหนดคดีภาษีอากร ข้อ 8 ซึ่งตามปกติจะต้องยื่นภายในวันที่ 14 เมษายน 2535 เวลา 16.30 นาฬิกาแต่วันดังกล่าวเป็นวันหยุดราชการเพราะเป็นวันสงกรานต์ คู่ความจึงต้องยื่นบัญชีระบุพยานภายในวันศุกร์ที่ 10 เมษายน 2535เวลา 16.30 นาฬิกา ซึ่งเป็นวันเปิดราชการวันสุดท้ายก่อนวันหยุดราชการสุดสัปดาห์ติดต่อกับวันสงกรานต์ โจทก์ไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานภายในกำหนด แต่ได้ยื่นคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยานเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2535 ศาลภาษีอากรกลางสั่งว่ารอไว้สั่งวันนัดชี้สองสถาน ครั้นถึงวันนัดชี้สองสถาน ศาลภาษีอากรกลางสอบจำเลยแล้ว จำเลยคัดค้านการขอยื่นบัญชีระบุพยานของโจทก์ศาลภาษีอากรกลางจึงนัดไต่สวนคำร้องของโจทก์โดยเลื่อนการชี้สองสถานในวันดังกล่าวไป เมื่อไต่สวนคำร้องของโจทก์เสร็จแล้วสั่งยกคำร้องขออนุญาตยื่นบัญชีระบุพยานของโจทก์และสั่งงดชี้สองสถาน งดสืบพยานแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์
ที่โจทก์อุทธรณ์ว่า ตามข้อกำหนดคดีภาษีอากร ข้อ 8 ที่กำหนดให้คู่ความยื่นบัญชีระบุพยานพร้อมต้นฉบับเอกสารก่อนวันชี้สองสถานไม่น้อยกว่า 7 วัน หมายถึงต้องมีการชี้สองสถานจริง ๆ เมื่อศาลภาษีอากรกลางได้เลื่อนวันนัดชี้สองสถานออกไปเพื่อไต่สวนคำร้องขออนุญาตยื่นบัญชีระบุพยานของโจทก์ ระยะเวลาไม่น้อยกว่า7 วัน ก่อนวันชี้สองสถานจึงเลื่อนออกไปด้วยนั้น เห็นว่า แม้เจตนารมณ์ของข้อกำหนดคดีภาษีอากร ข้อ 8 วรรคหนึ่งที่กำหนดให้คู่ความยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันชี้สองสถานไม่น้อยกว่า 7 วันจะหมายถึงการยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันที่มีการชี้สองสถานจริง ๆก็ตาม แต่คดีนี้ศาลภาษีอากรกลางสั่งเลื่อนการชี้สองสถานไปเพื่อไต่สวนคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยานของโจทก์ก่อน และในที่สุดศาลภาษีอากรกลางก็สั่งไม่อนุญาตให้โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานตามคำร้องของโจทก์ แล้วให้งดชี้สองสถานและงดสืบพยาน การที่ไม่ได้มีการชี้สองสถานจริง ๆ จึงเกิดจากเหตุที่โจทก์มิได้ยื่นบัญชีระบุพยานภายในกำหนดเวลาซึ่งโจทก์เองก็ได้ยอมรับข้อเท็จจริงนี้แล้ว จึงได้ยื่นคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยานตามข้อกำหนดคดีภาษีอากร ข้อ 8 วรรคสี่ กรณีเช่นนี้จะถือเอาการชี้สองสถานจริง ๆเป็นหลักในการนับระยะเวลายื่นบัญชีระบุพยานตามข้อกำหนดคดีภาษีอากรข้อ 8 วรรคหนึ่งไม่ได้ เพราะมิฉะนั้นโจทก์อาจยื่นบัญชีระบุพยานได้เสมอโดยไม่มีกำหนดเวลา คำพิพากษาฎีกาที่ 1587/2524 ที่โจทก์อ้างมาข้อเท็จจริงไม่ตรงกับคดีนี้อุทธรณ์ข้อนี้ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share