คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3947/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อต้นฉบับใบอนุญาตขับรถยนต์อยู่ในความครอบครองของ น.ซึ่งหลบหนีคดีอาญา จึงเป็นกรณีเข้าข้อยกเว้นที่ไม่สามารถนำต้นฉบับมาได้โดยประการอื่นชอบที่โจทก์ที่ 1 จะอ้างสำเนาหรือภาพถ่ายเอกสารได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 93(2) จำเลยให้การรับว่า ได้รับประกันภัยรถยนต์ของโจทก์ที่ 1ไว้จริงแต่จำเลยไม่ต้องรับผิดตามสัญญาประกันภัยเพราะผู้ขับรถยนต์ไม่ได้รับอนุญาตให้ขับรถยนต์ได้ตามกฎหมายซึ่งเป็นข้อยกเว้นความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัย จำเลยจึงมีหน้าที่นำสืบในข้อนี้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ที่ 1 และโจทก์ที่ 2 ได้ร่วมกันนำรถยนต์ของโจทก์ที่ 1 ไปทำสัญญาประกันภัยแบบชดใช้ค่าเสียหายแก่บุคคลภายนอกต่อมาระหว่างระยะเวลาประกันภัย น.ได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวชนกับรถยนต์ของบุคคลภายนอกบุคคลภายนอกได้เป็นโจทก์ฟ้องโจทก์ที่ 1 และจำเลยเป็นคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายต่อศาลชั้นต้น โจทก์ที่ 1 แจ้งให้จำเลยดำเนินคดีแทนโจทก์ตามข้อตกลงในกรมธรรม์ประกันภัย แต่จำเลยไม่ปฏิบัติตาม โจทก์ต่อสู้คดีเองโดยเสียค่าใช้จ่ายไปเป็นจำนวนเงิน30,000 บาท และโจทก์ได้ชำระเงินให้แก่บุคคลภายนอกตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นจำนวน 211,920 บาท จึงขอให้ศาลบังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 241,920 บาท พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การและแก้ไขคำให้การว่า จำเลยรับประกันภัยรถยนต์คันดังกล่าวไว้จริง แต่ผู้ขับรถยนต์ไม่มีใบอนุญาตให้ขับรถยนต์โจทก์ทั้งสองไม่นำ น. ผู้ขับรถยนต์ไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อพิสูจน์ว่า น. ไม่ได้ประมาทอันเป็นการผิดเงื่อนไขตามกรมธรรม์ประกันภัย ทั้งมิได้มีหนังสือบอกกล่าวให้จำเลยต่อสู้คดีในนามของโจทก์ที่ 1 โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 211,920 บาทให้แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยฎีกาข้อแรกว่า ใบอนุญาตขับรถยนต์ของ น.เป็นเพียงสำเนาภาพถ่าย จำเลยได้ปฏิเสธไม่รับรองความถูกต้อง โจทก์ที่ 1 สามารถนำต้นฉบับมาได้ การที่ศาลล่างทั้งสองรับฟังสำเนาดังกล่าวจึงเป็นการไม่ชอบนั้นเมื่อปรากฏว่าต้นฉบับใบอนุญาตขับรถยนต์อยู่ในความครอบครองของน.ซึ่งหลังจากเกิดเหตุแล้ว น.ได้หลบหนีเพราะเป็นฝ่ายผิดในคดีอาญา โจทก์ที่ 1 จึงอยู่ในฐานะที่ไม่อาจจะนำต้นฉบับใบอนุญาตรถยนต์นั้นมาเป็นพยานเอกสารได้กรณีจึงเข้าข้อยกเว้นที่ว่าไม่สามารถนำต้นฉบับมาได้โดยประการอื่น ชอบที่โจทก์ที่ 1 จะอ้างสำเนาหรือภาพถ่ายเอกสารที่ว่ามาได้และชอบที่ศาลจะรับฟังสำเนาหรือภาพถ่ายเอกสารนั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 93(2) ส่วนที่จำเลยฎีกาในข้อต่อมาว่า ภาระในการพิสูจน์ในเรื่องนี้เป็นเรื่องของโจทก์ที่จะต้องนำสืบให้เห็นอย่างแน่ชัดนั้นเห็นว่า จำเลยให้การรับว่า ได้รับประกันภัยรถยนต์ของโจทก์ที่ 1ไว้จริง แต่จำเลยไม่ต้องรับผิดตามสัญญาประกันเพราะผู้ขับรถยนต์ไม่ได้รับอนุญาตให้ขับรถยนต์ได้ตามกฎหมายซึ่งเป็นข้อยกเว้นความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัย ข้ออ้างดังกล่าวจำเลยเป็นฝ่ายกล่าวอ้างขึ้นในคำให้การ จึงมีหน้าที่นำสืบในข้อนี้หาใช่โจทก์ไม่ เมื่อจำเลยนำสืบไม่สมข้อกล่าวอ้างจำเลยจึงไม่อาจชนะคดีได้
พิพากษายืน

Share