คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 897/2536

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ภายหลังจากที่ศาลมีคำสั่งให้ริบรถยนต์ ซึ่งเป็นทรัพย์ ที่จำเลยใช้กระทำความผิดแล้ว เจ้าพนักงานตำรวจ ไปยึดรถยนต์คันอื่นที่มิใช่รถยนต์คันที่ศาลมีคำสั่งให้ริบมา ย่อมเป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานตำรวจที่จะต้องคืน รถยนต์นั้นแก่เจ้าของไป ศาลมีอำนาจคืนทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 ก็แต่เฉพาะ ในกรณีที่ทรัพย์สินนั้นเป็นทรัพย์สินที่ศาลสั่งริบ และผู้เป็น เจ้าของที่แท้จริงมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดเท่านั้น เจ้าของจะยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งคืนรถยนต์คันดังกล่าวให้แก่ตนไม่ได้

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องจำเลยว่า กระทำผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลย และริบรถยนต์จิ๊ป ยี่ห้อซูซูกิ หมายเลขทะเบียน 8ช-9377 กรุงเทพมหานครของกลาง
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า รถยนต์จิ๊ป ยี่ห้อซูซูกิ คันหมายเลขทะเบียน 8 ช-9377 กรุงเทพมหานคร เป็นรถยนต์คันเดียวกับรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 8 ช-9378 กรุงเทพมหานครซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้อง ได้ให้นายณรงค์ สดากร เช่าซื้อไปต่อมาผู้เช่าซื้อผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อผู้ร้องได้มีหนังสือบอกกล่าวและเลิกสัญญา แต่ผู้เช่าซื้อไม่ยอมคืนรถ ผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดของจำเลย ขอให้คืนรถยนต์ของกลางแก่ผู้ร้อง
โจทก์ยื่นคำร้องคัดค้านว่า ผู้ร้องมิใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์ของกลางและผู้ร้องมีส่วนรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดของจำเลยขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 3พิพากษากลับให้คืนรถจิ๊ป ยี่ห้อซูซูกิหมายเลขทะเบียน 8 ช-9378กรุงเทพมหานคร หมายเลขเครื่องยนต์ จี. 13 เอทีเอช 107426หมายเลขตัวรถ เอส เจ 51 – ทีเอช – 103242 ของกลางแก่ผู้ร้องโจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า เมื่อวันที่20 มิถุนายน 2533 ร้อยตำรวจโทศรวุฒิ กับพวกได้ร่วมกันจับกุมจำเลยในข้อหาความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ และได้ยึดรถยนต์จิ๊ป ยี่ห้อ ซูซูกิ สีขาว รุ่นคาริเบียน คันหมายเลขทะเบียน8 ช-9377 กรุงเทพมหานคร ซึ่งบรรทุกอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนเป็นของกลาง ปรากฏตามบันทึกการจับกุมเอกสารหมาย จ.1แต่ระหว่างสอบสวนเจ้าพนักงานตำรวจได้คืนรถยนต์ของกลางแก่ผู้มาขอคืนไป ต่อมาศาลพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยและให้ริบรถยนต์ของกลาง วันที่ 25 ธันวาคม 2533 ร้อยตำรวจโทศรวุฒิได้ไปยึดรถยนต์จิ๊ป ยี่ห้อ ซูซูกิ สีขาว รุ่นคาริเบียนหมายเลขทะเบียน 8ช-9378 กรุงเทพมหานคร หมายเลขเครื่องยนต์จี 13 เอทีเอช 107426 หมายเลขตัวถังรถ เอส เจ 51 ทีเอช103242 จากนายณรงค์ สดากร ผู้เช่าซื้อรถยนต์คันดังกล่าวจากผู้ร้องไป โดยอ้างว่าเป็นรถยนต์คันที่ศาลมีคำสั่งให้ริบปรากฏตามบันทึกการยึดเอกสารหมาย ร.5 ปัญหาวินิจฉัยมีว่ารถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 8ช-9378 เป็นคันเดียวกับรถยนต์คันหมายเลข 8ช-9377 ซึ่งเป็นคันที่ศาลมีคำสั่งให้ริบหรือไม่เห็นว่า รถยนต์คันที่ศาลมีคำสั่งให้ริบนั้น คือรถยนต์คันที่ถูกยึดมาเป็นของกลางตามบันทึกการจับกุมเอกสารหมาย จ.1 ซึ่งในบันทึกดังกล่าวระบุแต่เพียงว่ารถยนต์คันที่ยึดมาเป็นของกลางมีหมายเลขทะเบียน 8ช-9377 กรุงเทพมหานครเท่านั้น ไม่ได้ระบุหมายเลขเครื่องยนต์และหมายเลขตัวถังรถไว้ ทั้งไม่ได้ระบุด้วยว่าผู้ใดเป็นเจ้าของรถยนต์ของกลางนั้น ในชั้นไต่สวนก็ไม่ได้ความชัดว่าเจ้าพนักงานตำรวจมอบรถยนต์ของกลางให้แก่ผู้ใดไปในชั้นสอบสวนคงได้ความแต่เพียงว่าเมื่อศาลพิพากษาให้ริบรถยนต์ของกลางแล้ว ร้อยตำรวจโทศรวุฒิได้ไปยึดรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน8ช-9378 กรุงเทพมหานคร ของผู้ร้องซึ่งอยู่ในความครอบครองนายณรงค์ สดากร ผู้เช่าซื้อมา โดยอ้างลอย ๆ ว่า รถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 8ช-9378 กรุงเทพมหานคร เป็นรถคันเดียวกับรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 8ช-9377 กรุงเทพมหานครซึ่งศาลมีคำสั่งให้ริบ เหตุใดรถคันเดียวจึงมีทะเบียนสองหมายเลขไม่มีผู้ใดนำสืบให้ปรากฏ ที่ร้อยตำรวจโทศรวุฒิเบิกความว่ารถยนต์ที่ไปยึดมามีหมายเลขเครื่องยนต์และหมายเลขตัวถังรถตรงกับหมายเลขเครื่องยนต์และหมายเลขตัวถังรถคันที่ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ไปยึดนั้นก็ไม่ได้ความว่า ผู้บังคับบัญชาที่อ้างนั้นเป็นใคร และได้หมายเลขเครื่องยนต์และได้หมายเลขตัวถังรถมาอย่างไร ทั้ง ๆ ที่บันทึกการจับกุมนั้นไม่ได้ระบุหมายเลขเครื่องยนต์และหมายเลขตัวถังรถคันที่ศาลมีคำสั่งริบไว้เลย เช่นนี้จึงฟังไม่ได้ว่ารถยนต์คันหมายเลขทะเบียน8ช-9378 ที่เจ้าพนักงานตำรวจไปยึดมาหลังจากศาลพิพากษาให้ริบรถยนต์ของกลางแล้วเป็นคันเดียวกับรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 8ช-9377 ที่ศาลมีคำสั่งให้ริบ เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจยึดรถยนต์คันอื่นที่มิใช่รถยนต์ที่ศาลมีคำสั่งให้ริบมาย่อมเป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานตำรวจที่จะต้องคืนรถยนต์นั้นแก่เจ้าของไปศาลมีอำนาจคืนทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36ก็แต่เฉพาะในกรณีที่ทรัพย์สินนั้นเป็นทรัพย์สินที่ศาลสั่งริบและผู้เป็นเจ้าของที่แท้จริงมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดเท่านั้นศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาให้คืนรถยนต์จิ๊ปยี่ห้อ ซูซูกิ หมายเลขทะเบียน 8 ช-9378 กรุงเทพมหานครแก่ผู้ร้องนั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย”
พิพากษากลับ ให้ยกคำร้องขอคืนทรัพย์สินของผู้ร้อง

Share