คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 323/2536

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์กับจำเลยสมัครใจวิวาททำร้ายกัน เป็นการยอมรับ ผลเสียที่จะเกิดขึ้นแต่ตนเอง ถือไม่ได้ว่าจำเลยกระทำละเมิด ต่อโจทก์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน จากจำเลยได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้มีดปลายแหลมฟันทำร้ายโจทก์ถูกบริเวณหัวไหล่ซ้ายได้รับอันตรายแก่กาย ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า ที่จำเลยใช้มีดทำร้ายโจทก์นั้นเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย โจทก์บุกรุกเข้ามาทำร้ายจำเลย จนเป็นเหตุให้จำเลยต้องหลบหนีและจำเลยได้รับบาดเจ็บจากการหลบหนี ขอให้ยกฟ้อง และให้โจทก์ชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยแก่จำเลย
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า จำเลยไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ทั้งสิ้น ขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย เป็นเงิน12,005 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จ และยกฟ้องแย้ง จำเลยอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งรับเฉพาะอุทธรณ์ในส่วนให้ยกฟ้องโจทก์ สั่งไม่รับอุทธรณ์ในส่วนให้บังคับตามฟ้องแย้ง ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระค่าเสียหายเป็นเงิน 9,000 บาท นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่า จำเลยได้ใช้มีดฟันโจทก์ 1 ครั้ง ถูกบริเวณหัวไหล่ซ้าย แผลยาวประมาณ5 นิ้ว ลึกผ่าระหว่างเส้นเอ็น ต้องเย็บถึง 14 เข็ม ที่จำเลยฎีกาว่าเหตุเกิดขึ้นเพราะโจทก์เดินมาที่ร้านจำเลยและเดินเข้าไปตบจำเลยในร้าน โดยที่จำเลยไม่ได้ด่าโจทก์แต่อย่างใดนั้นได้ความว่า โจทก์จำเลยมีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน และโจทก์ไม่ได้ไปซื้อของจากร้านจำเลยมานานแล้ววันเกิดเหตุ ตอนเช้าก่อนจะเกิดเหตุ จำเลยเห็นโจทก์อยู่บนดาดฟ้าแอบดูจำเลย จำเลยด่าโจทก์ไปหลายคำแล้วไปขายของในร้านตามปกติ ต่อมาประมาณ 20 นาที โจทก์ เดินมาหน้าร้านจำเลยจึงเกิดเหตุฟันกันขึ้น พฤติการณ์ที่โจทก์ลงจากดาดฟ้ามาหน้าร้านจำเลย ถามจำเลยว่าด่าโจทก์เรื่องอะไรเป็นการถามจำเลยซึ่งไม่ถูกกันมาก่อน พฤติการณ์น่าเชื่อว่าเมื่อถูกโจทก์ถามจำเลยคงด่าโต้ตอบกลับไปอีกมากมายไม่หยุดจนเป็นเหตุให้โจทก์ทนไม่ไหวจึงเข้าไปตบจำเลยในร้านจำเลย จำเลย จึงใช้มีดฟันโต้ตอบ ดังจะเห็นได้จากคำเบิกความของจำเลยที่ว่า ตอนโจทก์จะเข้าตบจำเลย โจทก์พูดว่ามึงด่าพอหรือยัง แสดงว่า จำเลยได้ด่าโจทก์ อันเป็นการสมัครใจวิวาทกัน ฎีกาจำเลยในข้อนี้ ฟังไม่ขึ้น ที่จำเลยฎีกาว่า การสมัครใจวิวาทกันระหว่างโจทก์กับ จำเลย การกระทำของจำเลยไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์ จำเลยไม่ต้อง รับผิดต่อโจทก์นั้น เห็นว่าการที่โจทก์กับจำเลยสมัครใจวิวาท ทำร้ายกัน เป็นการยอมรับผลเสียหายที่จะเกิดขึ้นแก่ตนเองถือไม่ได้ว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยได้ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา”
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์

Share