คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5516/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ระหว่างอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ตั้งผู้ร้องผู้คัดค้านที่ 1 และผู้คัดค้านที่ 2 เป็นผู้จัดการมรดกของ ส.ร่วมกัน ผู้ร้อง ผู้คัดค้านที่ 1 และผู้คัดค้านที่ 2 ย่อมยังคงผูกพันตามคำสั่งศาลชั้นต้นในฐานะเป็นผู้จัดการมรดกของ ส. ร่วมกันและมีหน้าที่จะต้องลงมือจัดทำบัญชีทรัพย์มรดกให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด ผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ 2 จึงชอบที่จะร้องขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้คัดค้านที่ 1 ส่งเอกสารตัวจริงที่เกี่ยวกับทรัพย์มรดกมาไว้ที่ศาล เพื่อจัดทำบัญชีทรัพย์มรดกให้แล้วเสร็จตามกำหนดได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้ร้อง ผู้คัดค้านที่ 1และผู้คัดค้านที่ 2 เป็นผู้จัดการมรดกของนายเสนอ จิตรพันธ์ผู้ตายร่วมกัน ผู้ร้องและผู้คัดค้านทั้งสองอุทธรณ์ ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ 2 ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้น ขอให้ศาลออกคำสั่งเรียกเอกสารต่าง ๆ ตามบัญชีทรัพย์ท้ายคำร้องไปยังผู้คัดค้านที่ 1 ให้จัดส่งเอกสารดังกล่าวมายังศาลและนัดพร้อมเพื่อสอบถาม ทั้งนี้เพื่อผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ 2จะได้ทำการตรวจสอบและดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของผู้จัดการมรดก
ผู้คัดค้านที่ 1 คัดค้านการที่ผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ 2จะจัดการมรดกทันที เพราะคดีร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกยังไม่ถึงที่สุดการไม่จัดการทรัพย์มรดกในขณะนี้ก็ยังไม่ทำให้กองมรดกเสียหายและขอเป็นผู้เก็บรักษาเอกสารดังกล่าวไว้ต่อไป
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้คัดค้านที่ 1 ส่งเอกสารตัวจริงเกี่ยวกับทรัพย์มรดกมาไว้ที่ศาลภายใน 30 วัน เพื่อความสะดวกในการจัดการมรดกของผู้จัดการมรดกทุกฝ่าย
ผู้คัดค้านที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้คัดค้านที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาในชั้นฎีกาว่า ศาลชั้นต้นมีอำนาจสั่งให้ผู้คัดค้านที่ 1 ส่งเอกสารตัวจริงเกี่ยวกับทรัพย์มรดกมาไว้ที่ศาลได้หรือไม่ เห็นว่าคดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งผู้ร้องผู้คัดค้านที่ 1 และผู้คัดค้านที่ 2 เป็นผู้จัดการมรดกของนายเสนอจิตรพันธ์ ผู้ตายร่วมกัน ผู้ร้อง ผู้คัดค้านที่ 1 และผู้คัดค้านที่ 2 อุทธรณ์ คดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ คดียังไม่ถึงที่สุดว่าใครควรเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย ดังนั้นคำพิพากษาของศาลชั้นต้นจึงมีผลผูกพันผู้ร้อง ผู้คัดค้านที่ 1 และผู้คัดค้านที่ 2 จนถึงวันมีคำพิพากษานั้นได้ถูกเปลี่ยนแปลง แก้ไขกลับหรืองดเสีย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 วรรคแรกจึงถือได้ว่าผู้ร้อง ผู้คัดค้านที่ 1 และผู้คัดค้านที่ 2 เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายร่วมกันอยู่ ซึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1716 ได้กำหนดหน้าที่ของผู้จัดการมรดกที่ศาลตั้งให้เริ่มนับแต่วันที่ได้ฟังหรือถือว่าได้ฟังคำสั่งศาลแล้วในคดีนี้จึงต้องเริ่มตั้งแต่วันที่ผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ 2 ได้ฟังคำสั่งของศาลชั้นต้นให้เป็นผู้จัดการมรดกร่วมกับผู้คัดค้านที่ 1และผู้จัดการมรดกต้องลงมือจัดทำบัญชีทรัพย์มรดกภายใน 15 วันนับแต่วันที่เริ่มหน้าที่ผู้จัดการมรดกตามมาตรา 1728 และจะต้องทำให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน นับแต่เวลาที่ระบุไว้ในมาตรา 1728ตามมาตรา 1729 ด้วยเหตุดังกล่าวผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ 2 ชอบที่จะยื่นคำร้องขอให้ศาลเรียกให้ผู้คัดค้านที่ 1 ส่งเอกสารตัวจริงต่าง ๆเกี่ยวกับทรัพย์มรดกที่อยู่ในความครอบครองของผู้คัดค้านที่ 1มาไว้ที่ศาลเพื่อจัดทำบัญชีทรัพย์มรดกให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ดังกล่าวข้างต้น การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้คัดค้านที่ 1 ส่งเอกสารตัวจริงเกี่ยวกับทรัพย์มรดกมาไว้ที่ศาลภายใน 30 วัน ตามคำร้องของผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ 2 จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามา ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยฎีกาของผู้คัดค้านที่ 1 ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share