คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4290/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยกับพวกไล่ชกผู้ตายจนถอยหลังตกคลอง เป็นเหตุให้ผู้ตายจมน้ำตาย การตายของผู้ตายเป็นผลโดยตรงจากการที่จำเลยกับพวกไล่ชกผู้ตาย การกระทำของจำเลยกับพวกเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าจำเลยทำร้ายผู้ตายโดยมิได้มีเจตนาฆ่าศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 83
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 290, 83 จำคุก 6 ปี จำเลยนำสืบรับในข้อที่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา นับเป็นเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกมีกำหนด 3 ปี
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 83 จำคุก 18 ปี จำเลยนำสืบรับว่าได้ชกต่อยทำร้ายผู้ตายจริงเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้างนับเป็นเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 12 ปี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยกับพวกไล่ชกผู้ตายจนถอยหลังตกคลองเป็นเหตุให้ผู้ตายจมน้ำตาย หาใช่ว่าจำเลยกับพวกร่วมกันทำร้ายผู้ตายจนสลบ แล้วร่วมกันจับผู้ตายโยนลงไปในคลองอันเป็นการเล็งเห็นผลได้ว่าผู้ตายต้องจมน้ำตาย และถือได้ว่าจำเลยกับพวกมีเจตนาฆ่าผู้ตายดังคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ไม่ แต่กลับฟังได้ว่าผู้ตายกับพวกมีเพียงเจตนาทำร้ายผู้ตายเท่านั้น เมื่อปรากฏว่า การตายของผู้ตายเป็นผลโดยตรงจากการที่จำเลยกับพวกไล่ชกต่อยจนผู้ตายถอยหลังตกคลองไป การกระทำของจำเลยกับพวกเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 ซึ่งศาลมีอำนาจลงโทษได้
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share