คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3590/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

มูลหนี้ที่จำเลยออกเช็คพิพาทให้แก่โจทก์เป็นหนี้เงินกู้และจากการเอาเช็คแลกเงินสด เมื่อไม่กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้โจทก์ย่อมทวงถามให้ชำระหนี้ได้โดยพลัน การที่โจทก์ลงวันที่สั่งจ่ายเงินในเช็คที่จำเลยมิได้ลงวันที่สั่งจ่ายไว้ภายหลังจากวันที่โจทก์ได้ทวงถามให้จำเลยชำระหนี้แล้ว ถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย กระทำการโดยสุจริตจดวันสั่งจ่ายที่ถูกต้องแท้จริงลงในเช็ค ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 910 ประกอบด้วยมาตรา 989 วรรคแรก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินตามเช็ค รวมเป็นเงิน310,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์ได้ให้จำเลยออกเช็คแก่โจทก์ไว้เป็นประกันการโอนทะเบียนรถยนต์ที่จำเลยขายให้โจทก์โดยไม่ได้ลงวันที่มอบแก่โจทก์ไว้เป็นประกันมิใช่มอบให้เพื่อชำระหนี้แต่อย่างใด โจทก์ไม่มีสิทธิกรอกวันเดือนปีลงในเช็คและนำเช็คไปเรียกเก็บเงินจากธนาคาร กลางปี 2528 จำเลยกู้เงินโจทก์ โจทก์จ่ายเงินสดแก่จำเลยบางส่วนกับตกลงให้จำเลยนำรถยนต์คันดังกล่าวไปขายและโอนทะเบียนแก่บริษัทเอาเงินที่ขายได้เป็นส่วนหนึ่งของเงินที่โจทก์ให้จำเลยกู้โดยจำเลยออกเช็คอีกจำนวน 4 ฉบับ โดยไม่ลงวันที่มอบแก่โจทก์ไว้เป็นประกันเงินที่กู้ และโจทก์ให้นางสาวสุภาพทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์คันดังกล่าวแก่โจทก์ จำเลยค้ำประกันการเช่าซื้อ และชำระค่าเช่าซื้อแทนโจทก์ ต่อมาโจทก์ทวงเงินกู้คืน จำเลยขอหักกับเงินค่าเช่าซื้อที่ชำระแทนโจทก์ไป เหลือเท่าใดตกลงผ่อนชำระคืนแก่โจทก์และตกลงให้โจทก์นำเช็คที่สั่งจ่ายเงินจำนวน 1 ฉบับ ไปเรียกเก็บเงิน แต่โจทก์กลับนำเช็คทั้งสี่ฉบับไปเรียกเก็บเงินผิดจากข้อตกลง เป็นการกระทำโดยไม่สุจริต เพราะจำเลยออกเช็คดังกล่าวเป็นประกันการกู้ มิใช่มอบแก่โจทก์เพื่อชำระเงินกู้ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 310,000บาท และเสียดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยออกเช็คพิพาทชำระหนี้โจทก์มิใช่ออกเช็คเพื่อเป็นประกันดังที่จำเลยให้การต่อสู้ และข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยชำระค่าเช่าซื้อรถยนต์แทนโจทก์ จำเลยจึงขอนำค่าเช่าซื้อที่ชำระแก่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์บางกอกอินเวสท์เมนท์จำกัด มาหักกับหนี้เงินตามฟ้องไม่ได้ ส่วนที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์ลงวันที่สั่งจ่ายในเช็คพิพาทโดยไม่สุจริต ไม่ถูกต้องตามวันที่จำเลยตกลง จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชำระเงินตามเช็คพิพาทแก่โจทก์นั้นเห็นว่า มูลหนี้ที่จำเลยออกเช็คพิพาทให้แก่โจทก์นั้นเป็นหนี้เงินกู้และจากการเอาเช็คแลกเงินสดไม่มีกำหนดเวลาชำระหนี้ไว้โจทก์ย่อมทวงถามให้จำเลยชำระหนี้ได้โดยพลันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 203 วรรคแรก ดังนั้น การที่โจทก์ลงวันที่สั่งจ่ายเงินในเช็คที่จำเลยมิได้ลงวันสั่งจ่ายไว้ภายหลังจากวันที่โจทก์ได้ทวงถามให้จำเลยชำระหนี้แล้ว จึงถือได้ว่าโจทก์ผู้ทรงเช็คพิพาทโดยชอบด้วยกฎหมายกระทำการโดยสุจริต จดวันสั่งจ่ายตามที่ถูกต้องแท้จริงลงในเช็ค เป็นการชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 910 ประกอบมาตรา 989 วรรคแรก แล้วจำเลยจึงต้องรับผิดชำระเงินตามเช็คพิพาทแก่โจทก์
พิพากษายืน

Share