คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3021/2536

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ซึ่งทำให้อายุความสะดุดหยุดลงเป็นโทษแก่ผู้ค้ำประกันนั้น ไม่มีกฎหมายใดบัญญัติไว้ว่าให้มีผลไปถึงลูกหนี้ด้วย แม้จำเลยในฐานะลูกหนี้จะต้องรับผิดร่วมกับผู้ค้ำประกัน กำหนดอายุความของลูกหนี้แต่ละคนก็ต้องเป็นไปเพื่อคุณและโทษเฉพาะแต่ลูกหนี้คนนั้นเท่านั้นตาม ป.พ.พ. มาตรา 295การที่ผู้ค้ำประกันผ่อนชำระหนี้ให้กับโจทก์ จึงไม่ทำให้อายุความที่โจทก์จะเรียกร้องเอาจากจำเลยสะดุดหยุดลงด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2522 เวลา 16 นาฬิกาจำเลยซึ่งเป็นลูกจ้างโจทก์ขับรถยนต์ คันหมายเลขทะเบียน 2 จ-0879กรุงเทพมหานคร ของโจทก์ไปในทางการที่จ้างด้วยความประมาทด้วยความเร็วสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ชนรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน1 ม-6457 กรุงเทพมหานคร เป็นเหตุให้รถยนต์คันดังกล่าวไฟไหม้เสียหายเด็กซึ่งโดยสารมาด้วยตาย 2 คน จำเลยถูกฟ้องคดีอาญา ศาลพิพากษาลงโทษจำคุก โจทก์ชดใช้ค่าเสียหายแทนจำเลยไปคือ จ่ายค่าปลงศพค่าสินไหมทดแทน 180,000 บาท จ่ายค่าซ่อมรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน1 ม-6457 กรุงเทพมหานคร 40,000 บาท จ่ายค่าซ่อมรถยนต์คันของโจทก์700 บาท รวมเป็นเงิน 220,700 บาท ผู้ค้ำประกันชำระหนี้แทนจำเลย13,900 บาท คงค้างชำระอีก 206,800 บาท ขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน206,800 บาท กับดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า โจทก์มิได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายและฟ้องไล่เบี้ยภายใน 10 ปีนับแต่วันทำละเมิด การที่ผู้ค้ำประกันชำระหนี้แทนจำเลยแม้จะเป็นการรับสภาพหนี้ก็ไม่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงเป็นโทษแก่จำเลย ฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ ในปัญหาข้อนี้โจทก์อุทธรณ์ว่า สัญญาค้ำประกันเอกสารหมาย จ.18 ข้อ 1 มีข้อความระบุไว้โดยแจ้งชัดว่าผู้ค้ำประกันยอมตนเข้าผูกพันกับจำเลยต่อโจทก์โดยผู้ค้ำประกันจะไม่ใช้สิทธิของผู้ค้ำประกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 687, 688, 689, และ 690 แสดงว่าผู้ค้ำประกันยินยอมเป็นลูกหนี้ร่วมกับจำเลย เมื่อผู้ค้ำประกันได้ผ่อนชำระหนี้แก่โจทก์งวดสุดท้ายวันที่ 27 ตุลาคม 2533 อายุความย่อมสะดุดหยุดลงมีผลไปถึงจำเลยด้วย นับถึงวันฟ้องยังไม่เกิน 10 ปีฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า ไม่มีบทกฎหมายใดที่บัญญัติไว้ว่า การที่ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ซึ่งทำให้อายุความสะดุดหยุดลงเป็นโทษแก่ผู้ค้ำประกันนั้นมีผลไปถึงลูกหนี้ด้วย นอกจากนี้แม้จำเลยในฐานะลูกหนี้จะต้องรับผิดร่วมกับผู้ค้ำประกันกำหนดอายุความของลูกหนี้แต่ละคนก็ต้องเป็นไปเพื่อคุณและโทษเฉพาะแต่ลูกหนี้คนนั้นเท่านั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 295 การที่ผู้ค้ำประกันผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์จึงไม่ทำให้อายุความที่โจทก์จะเรียกร้องเอาจากจำเลยสะดุดหยุดลงฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความ ศาลแรงงานกลางพิพากษาชอบแล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share