คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1403/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บรรยายฟ้องว่าจำเลยทำเอกสารปลอมเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริงนั้น เป็นคำฟ้องที่สมบูรณ์ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว ไม่จำต้องบรรยายด้วยว่า ผู้หนึ่งผู้ใดนั้นเป็นใครหรือชื่ออะไร

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานร่วมกับผู้อื่นปลอมเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการ และใช้เอกสารปลอมดังกล่าว ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 266, 268, 83
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 266(1) วางโทษจำคุก 3 ปี ข้อหาอื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในปัญหาว่าคำฟ้องโจทก์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่นั้น เห็นว่า คำฟ้องโจทก์ได้บรรยายไว้แล้วว่าจำเลยทำเอกสารปลอมเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริงไม่จำต้องบรรยายด้วยว่าผู้หนึ่งผู้ใดนั้นเป็นใครหรือชื่ออะไรคำฟ้องโจทก์ก็สมบูรณ์ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158 แล้ววินิจฉัยข้อเท็จจริงว่าจำเลยเป็นผู้ทำใบเสร็จรับเงินปลอมและสมควรกำหนดโทษจำเลยใหม่
พิพากษาแก้เป็นว่า เฉพาะเรื่องกำหนดโทษให้จำคุกจำเลยมีกำหนด2 ปี โดยให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 3 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share