แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเข้าไปในบ้านโจทก์เนื่องจากต้องการจะตกลงกับโจทก์เรื่องที่โจทก์ดำเนินกิจการต้มเปลือกหอยแล้วทำให้เปลือกหอยส่งกลิ่นเหม็นการเข้าไปเช่นนี้นับว่ามีเหตุอันสมควร แม้จำเลยจะมีปืนติดตัวไปด้วยก็ไม่เป็นข้อสำคัญ ไม่ทำให้การเข้าไปนั้นกลับไม่มีเหตุอันสมควร อันจะทำให้จำเลยมีความผิดฐานบุกรุก
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบุกรุกเข้าไปในบ้านของโจทก์และใช้อาวุธปืนจ้องไปทางโจทก์ เพื่อยิงโจทก์ให้ถึงแก่ความตาย จำเลยได้กระทำไปตลอดแล้วแต่ไม่บรรลุผลเพราะมีผู้ขัดขวางปัดอาวุธปืนและแย่งอาวุธปืนไปได้ โจทก์จึงไม่ถึงแก่ความตายสมดังเจตนาของจำเลย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 365
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 365 ประกอบด้วยมาตรา 362 จำคุก 6 เดือน ปรับ10,000 บาท โทษจำคุกรอไว้มีกำหนด 1 ปี ข้อหาอื่นให้ยก
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องในข้อหาบุกรุกด้วยนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่โจทก์ฎีกาว่า พยานโจทก์เบิกความสอดคล้องกันฟังได้ว่า จำเลยเข้าไปในบ้านของโจทก์โดยมีปืนเป็นอาวุธเนื่องจากต้องการจะตกลงกับโจทก์ เรื่องปล่อยให้เปลือกหอยมีกลิ่นเหม็นซึ่งถือได้ว่าไม่มีเหตุอันสมควร จึงเป็นความผิดฐานบุกรุกนั้นฎีกาโจทก์ดังกล่าวยอมรับข้อเท็จจริงว่าจำเลยเข้าไปในบ้านโจทก์เนื่องจากต้องการจะตกลงกับโจทก์เรื่องปล่อยให้เปลือกหอยส่งกลิ่นเหม็น แม้จำเลยจะได้เข้าไปในบ้านโจทก์จริง การที่เข้าไปก็เพื่อจะตกลงเรื่องที่โจทก์ดำเนินกิจการต้มหอยแล้วทำให้เปลือกหอยส่งกลิ่นเหม็นการเข้าไปเช่นนี้นับว่ามีเหตุอันสมควร การมีปืนติดตัวไปด้วยหรือไม่ ไม่เป็นข้อสำคัญ เมื่อการเข้าไปโดยมีเหตุอันสมควรแล้วแม้จะมีปืนติดตัวไปด้วย ก็ไม่ทำให้การเข้าไปนั้นกลับไม่มีเหตุอันสมควรอันจะเป็นความผิดฐานบุกรุกศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาชอบแล้ว
พิพากษายืน