คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3237/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พยานลงลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดี แม้จะไม่ระบุว่าเป็นการรับรองลายพิมพ์นิ้วมือผู้มอบอำนาจก็ถือว่าเป็นการรับรองลายพิมพ์นิ้วมือนั่นเอง การลงลายพิมพ์นิ้วมือจึงถูกต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 9 วรรคสอง หนังสือมอบอำนาจสมบูรณ์ถูกต้อง โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างส่วนที่รุกล้ำทางภารจำยอม หากจำเลยทั้งสองไม่รื้อถอนให้โจทก์ทั้งสองรื้อถอนได้โดยให้จำเลยทั้งสองเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้จำเลยทั้งสองจดทะเบียนให้ทางเดินกว้าง 1.2 เมตร ตามแนวเส้นสีแดงในแผนที่พิพาทเป็นทางภารจำยอมของที่ดินโจทก์ทั้งสอง หากจำเลยทั้งสองไม่จดทะเบียนให้ก็ให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลยทั้งสอง
จำเลยทั้งสองให้การว่า ที่ดินของจำเลยทั้งสองมิได้ตกเป็นทางภารจำยอม จำเลยทั้งสองไม่ได้สร้างบ้านรุกล้ำดังที่โจทก์ทั้งสองกล่าวอ้าง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ทางพิพาทตามแผนที่เอกสารหมายเลข 3เป็นทางภารจำยอม ให้จำเลยทั้งสองจดทะเบียนให้ทางดังกล่าวเป็นทางภารจำยอม
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ทางพิพาทตามแผนที่สังเขปและแผนที่สังเขปแสดงที่ตั้งของที่ดินเอกสารหมาย จ.3 เป็นทางภารจำยอมให้ยกคำขอของโจทก์ทั้งสองที่ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองไปจดทะเบียนให้เป็นทางภารจำยอมของที่ดินโจทก์ทั้งสอง หากไม่ไปให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลยทั้งสองนั้นด้วย
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่มีพยานสองคนลงลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.49 เป็นการรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของโจทก์ที่ 2 นั่นเอง การลงลายพิมพ์นิ้วมือของโจทก์ที่ 2 ถูกต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 9 วรรคสอง แล้วหนังสือมอบอำนาจสมบูรณ์ถูกต้อง โจทก์ที่ 2 มีอำนาจฟ้อง
พิพากษายืน

Share