คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1540/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ยาคุมกำเนิดที่ถูกคนร้ายโจรกรรมไปนั้น จำเลยนำไปเก็บรักษาที่บ้านพักแพทย์ เนื่องจากไม่มีห้องเก็บยาโดยเฉพาะ บ้านพักดังกล่าวตั้งอยู่ในบริเวณที่ตั้งสำนักงานสาธารณสุข ห่างกันเพียง5-6 เมตร มีรั้วรอบ และมีเวรยามดูแลตลอดเวลา บุคคลผู้อาศัยในบ้านพักแพทย์ล้วนเป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักงานสาธารณสุขแห่งนั้นเมื่อออกจากบ้านพักบุคคลเหล่านั้นจะปิดบ้านใส่กุญแจ และนำลูกกุญแจไปให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายที่รับผิดชอบเก็บรักษาเพื่อจะได้ใช้เมื่อมีการเบิกยาทั้งก่อนเกิดเหตุ ก็ไม่ปรากฏว่าได้เกิดกรณียาคุมกำเนิดหรือวัสดุครุภัณฑ์สูญหายไปแต่อย่างใด จึงไม่มีเหตุให้คาดหมายได้ว่าการควบคุมดูแลกุญแจบ้านพักแพทย์ตามวิธีการที่จำเลยทั้งสี่ใช้อยู่นั้นจะเป็นเหตุให้เกิดการโจรกรรมยาคุมกำเนิดไปได้จะถือว่าการโจรกรรมยาคุมกำเนิดดังกล่าวมาจากการกระทำโดยประมาทเลินเล่อของจำเลยทั้งสี่หาได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสี่เป็นข้าราชการและลูกจ้างในสังกัดโจทก์ มีหน้าที่เกี่ยวกับงานวางแผนครอบครัวของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองคาย ซึ่งได้รับยาคุมกำเนิดชนิดต่าง ๆ มาเพื่อแจกจ่ายบริการแก่ประชาชนโดยจำเลยที่ 3 และที่ 4 จะต้องรับผิดชอบตรวจรับดูแลเก็บรักษาแจกจ่าย และทำบัญชีตรวจสอบควบคุมการรับจ่ายรวมตลอดถึงยอดคงเหลือของยาคุมกำเนิดดังกล่าว จำเลยที่ 1 และที่ 2 ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาจะต้องควบคุมดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของจำเลยที่ 3และที่ 4 ให้เป็นไปตามระเบียบแบบแผนและคำสั่งของทางราชการเมื่อระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2526 ถึงวันที่ 9 เมษายน 2527จำเลยทั้งสี่ได้กระทำโดยประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้ยาคุมกำเนิดสูญหายคิดเป็นเงินจำนวน 478,525 บาท โดยจำเลยทั้งสี่เก็บรักษายาคุมกำเนิดไว้ที่ชั้นล่างของบ้านพักข้าราชการสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองคาย (บ้านพักแพทย์) ซึ่งมีข้าราชการพักอยู่หลายคนและเก็บปะปนกับพัสดุภัณฑ์ เวชภัณฑ์ และสิ่งของเครื่องใช้อื่นเป็นจำนวนมาก อีกทั้งไม่ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ในฝ่ายเดียวกันเป็นผู้ตรวจตราดูแลรักษาหรือเก็บกุญแจบ้านพักและห้องเก็บยาคุมกำเนิดแต่กลับมอบให้ผู้อื่นซึ่งไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องเป็นผู้เก็บกุญแจบ้านพัก และกุญแจห้องดังกล่าวแทนอันเป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับและมิได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจ การกระทำของจำเลยทั้งสี่ดังกล่าวมาเป็นเหตุโดยตรงที่ทำให้ยาคุมกำเนิดของโจทก์สูญหาย ขอให้บังคับจำเลยทั้งสี่ร่วมกันชำระเงินจำนวน 478,525 บาทแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ให้การว่า จำเลยทั้งสี่มิได้ประมาทเลินเล่อ แต่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบแบบแผนที่ทางราชการและผู้บังคับบัญชามอบหมายไว้ทุกประการ สำหรับยาคุมกำเนิดที่หายไปเก็บอยู่ในที่ซึ่งเป็นที่เก็บทรัพย์สินอย่างอื่นของทางราชการด้วยมีเวรยามคอยตรวจตรา ย่อมถือว่าเป็นสถานที่เก็บเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ปลอดภัย ที่ยาคุมกำเนิดถูกคนร้ายทำการโจรกรรมหาใช่เป็นเพราะความประมาทเลินเล่อของจำเลยทั้งสี่ไม่ การที่จะให้จำเลยทั้งสี่ต้องรับผิดด้วยนั้นเป็นเรื่องที่ไกลเกินกว่าเหตุ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันชำระเงินจำนวน478,525 บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของจำนวนดังกล่าว นับแต่วันที่ 10 เมษายน 2527 จนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยทั้งสี่อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า บ้านพักแพทย์ที่ใช้เป็นสถานที่เก็บยาคุมกำเนิดตั้งอยู่ในบริเวณที่ตั้งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองคายห่างกันเพียง 5-6 เมตร มีรั้วรอบและมีเวรยามดูแลตลอดเวลา บุคคลผู้อาศัยอยู่ในบ้านพักแพทย์จำนวน 3 คนนั้นล้วนเป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองคายทั้งสิ้น แม้บุคคลทั้งสามจะเป็นผู้ถือกุญแจบ้านพัก แต่เมื่อออกจากบ้านพักไปที่ทำงานโดยปกติบุคคลเหล่านั้นจะปิดบ้านใส่กุญแจไว้และนำลูกกุญแจไปให้ฝ่ายส่งเสริมสุขภาพเก็บรักษาเพื่อจะได้ใช้เมื่อมีการเบิกยา ข้อเท็จจริงดังกล่าวบ่งชี้ว่าจำเลยที่ 3 และที่ 4 ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติงานในฝ่ายส่งเสริมสุขภาพก็ดี จำเลยที่ 1 และที่ 2 ในฐานะผู้บังคับบัญชาหน่วยงานและในฐานะหัวหน้าฝ่ายส่งเสริมสุขภาพตามลำดับก็ดีต่างได้ใช้ความระมัดระวังในการควบคุมดูแลกุญแจบ้านพักแพทย์ อันเป็นสถานที่เก็บยาคุมกำเนิดเป็นอย่างดีแล้ว นอกจากนี้การใช้บ้านพักแพทย์เป็นสถานที่เก็บยาคุมกำเนิดและเก็บวัสดุครุภัณฑ์ ก่อนเกิดเหตุไม่ปรากฏว่าได้เกิดกรณียาคุมกำเนิดหรือวัสดุครุภัณฑ์สูญหายไปแต่อย่างใด จึงเห็นได้ว่าไม่มีเหตุที่จะให้คาดหมายได้เลยว่าการควบคุมดูแลกุญแจบ้านพักแพทย์ตามวิธีการที่จำเลยทั้งสี่ใช้อยู่นั้น จะเป็นเหตุให้เกิดการโจรกรรมยาคุมกำเนิดไปได้ การกระทำของจำเลยทั้งสี่จึงไม่เป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่อ จะถือว่าการโจรกรรมยาคุมกำเนิดดังกล่าวเป็นผลมาจากการกระทำโดยประมาทเลินเล่อของจำเลยทั้งสี่หาได้ไม่ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ชอบแล้วฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share