คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1134/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ ผู้กระทำจะต้องมีเจตนาพิเศษเพื่อมิให้เจ้าหนี้ของตนหรือผู้อื่นได้รับชำระหนี้ จำเลยเป็นหนี้ธนาคารเป็นเงิน 696,252.59 บาท โดยจำเลยเอาที่ดินจำนองเป็นประกันธนาคารเจ้าหนี้ได้เร่งรัดให้จำเลยชำระหนี้จำเลยจึงได้ขายที่ดินที่จำนองให้แก่ ก. ไปในราคา 700,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ไม่ต่ำกว่าความเป็นจริง แล้วนำเงินนั้นชำระหนี้ให้แก่ธนาคารเจ้าหนี้อันเป็นการชำระหนี้ที่จำเลยมีหน้าที่ตามกฎหมายจะต้องปฏิบัติ แม้จะเป็นการขายภายหลังจากจำเลยทราบว่าเป็นหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาแล้วก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยขายที่ดินโดยเจตนาที่จะไม่ให้โจทก์ได้รับชำระหนี้ จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานโกงเจ้าหนี้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350,91, 92, 93
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้เพิ่มโทษ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350 ลงโทษจำคุก 1 ปี เพิ่มโทษจำเลยหนึ่งในสามตามมาตรา 92 คงให้จำคุกจำเลยไว้ 1 ปี 4 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว มีปัญหาตามฎีกาโจทก์ว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องหรือไม่ โจทก์เบิกความว่า ราคาที่ดินที่จำเลยขายไปนั้นต่ำกว่าราคาในท้องตลาดมาก โจทก์เคยเสนอขอซื้อที่ดินแปลงนี้จากจำเลยในราคาถึง 2,000,000 บาท แต่จำเลยไม่ขาย จำเลยนำสืบปฏิเสธว่าโจทก์ไม่เคยขอซื้อ คำเบิกความของโจทก์ดังกล่าวไม่มีพยานหลักฐานอื่นสนับสนุน โจทก์เบิกความลอย ๆ นอกจากนั้นโจทก์ยังยอมรับด้วยว่าที่ดินมีราคาประเมิน 682,000 บาท เท่านั้นดังนั้นคำเบิกความของโจทก์จึงไม่มีน้ำหนักรับฟัง จำเลยนำสืบว่าได้ขายที่ดินไปในราคาสูงแล้ว คือขายในราคา 700,000 บาท ถ้าขายทอดตลาดก็คงจะได้ราคาต่ำกว่านี้เพราะที่ดินมีส่วนที่ติดถนนกว้างเพียง 4.50 เมตร ถ้าสร้างอาคารจะต้องเว้นด้านข้างอีกข้างละ50 เซนติเมตร จะเหลือหน้ากว้างของอาคารเพียง 3.50 เมตร กรณีจึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยขายที่ดินตามฟ้องให้แก่ผู้อื่นในราคาที่ต่ำกว่าความเป็นจริงและความผิดฐานโกงเจ้าหนี้นั้นผู้กระทำจะต้องมีเจตนาพิเศษเพื่อมิให้เจ้าหนี้ของตนหรือผู้อื่นได้รับชำระหนี้ด้วย จำเลยเป็นหนี้ธนาคารกรุงเทพ จำกัด เป็นเงิน 696,252.59 บาท โดยจำเลยเอาที่ดินตามฟ้องจำนองเป็นประกัน ธนาคารเจ้าหนี้ได้เร่งรัดให้จำเลยชำระหนี้ จำเลยจึงได้ขายที่ดินตามฟ้องให้แก่นายกมลตันตาคม ไปในราคา 700,000 บาท แล้วนำเงินนั้นชำระหนี้ให้แก่ธนาคารเจ้าหนี้ซึ่งเป็นการชำระหนี้ที่จำเลยมีหน้าที่ตามกฎหมายจะต้องปฏิบัติ แม้จะเป็นการขายภายหลังจากจำเลยทราบว่าเป็นหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาแล้ว ก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยขายที่ดินโดยเจตนาที่จะไม่ให้โจทก์ได้รับชำระหนี้ จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ตามฟ้อง ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายกฟ้องโจทก์นั้นชอบแล้วฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share