คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 907/2537

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์ใช้ทางพิพาทจนได้สิทธิภารจำยอมเหนือที่ดินโดยอายุความแม้โจทก์ยังไม่ได้จดทะเบียนภารจำยอม แต่โจทก์ก็สามารถยกสิทธิภารจำยอมซึ่งยังไม่ได้จดทะเบียนขึ้นใช้ยันจำเลยผู้ได้ที่ดินดังกล่าวมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตและจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วได้ จึงไม่จำต้องกำหนดเป็นประเด็นข้อพิพาทว่าจำเลยได้ที่ดินมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตและจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตหรือไม่ ตามที่จำเลยให้การ

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่า ทางพิพาทซึ่งมีความกว้าง2.5 เมตร ยาว 24 เมตร ในที่ดินโฉนดเลขที่ 185 และ 2077ของจำเลยทั้งสองตามแผนผังเอกสารท้ายฟ้อง เป็นทางภารจำยอมของที่ดินโฉนดเลขที่ 188, 4434 และ 5418 ของโจทก์ทั้งสอง ให้จำเลยทั้งสองจดทะเบียนภารจำยอมในที่ดินทั้ง 2 แปลงดังกล่าวของจำเลยทั้งสองเป็นภารยทรัพย์แก่ที่ดินของโจทก์ทั้ง 3 แปลงดังกล่าว มีความกว้างยาวตามแผนผังเอกสารท้ายฟ้อง ถ้าจำเลยทั้งสองไม่ยอมไปจดทะเบียนให้แก่โจทก์ทั้งสองก็ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยทั้งสอง
จำเลยทั้งสองให้การว่า ทางพิพาทตามฟ้องไม่ใช่ทางภารจำยอมเพราะการให้ทางดังกล่าวเป็นไปโดยอาศัยการเอื้อเฟื้อของเจ้าของที่ดิน และต่อมาก็ต้องเสียผลประโยชน์ตอบแทนในการใช้ทางดังกล่าวด้วย จำเลยทั้งสองได้ซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ 185 และ 2077ซึ่งมีทางพิพาทอยู่ในที่ดินทั้ง 2 แปลงนี้มาโดยสุจริตและได้จดทะเบียนโดยสุจริต โจทก์ทั้งสองจึงอ้างสิทธิภารจำยอมซึ่งยังไม่ได้จดทะเบียนมายันจำเลยทั้งสองไม่ได้ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นชี้สองสถานกำหนดประเด็นข้อพิพาทเพียงข้อเดียวว่าโจทก์ใช้ทางพิพาทจนได้สิทธิภารจำยอมโดยทางอื่นนอกจากนิติกรรมหรือไม่
จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทเพิ่มอีกข้อหนึ่งว่า จำเลยทั้งสองได้สิทธิในที่ดินโฉนดเลขที่ 185 และ 2077 ตามฟ้อง โดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตหรือไม่
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง จำเลยทั้งสองอุทธรณ์คำสั่งศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “จำเลยทั้งสองฎีกาว่า เนื่องจากจำเลยทั้งสองได้ให้การไว้ด้วยว่า จำเลยทั้งสองซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ 185และ 2077 โดยสุจริตและจดทะเบียนสิทธิไว้แล้ว เมื่อโจทก์ทั้งสองยังไม่ได้จดทะเบียนทางภารจำยอมย่อมจะอ้างสิทธิภารจำยอมซึ่งยังไม่ได้จดทะเบียนมายันจำเลยทั้งสองหาได้ไม่ กรณีจึงเป็นประเด็นข้อพิพาทดังกล่าวนี้อีกข้อหนึ่งนั้น พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าถึงหากจะฟังได้ว่าโจทก์ทั้งสองใช้ทางพิพาทจนได้สิทธิภารจำยอมเหนือที่ดินทั้งสองแปลงดังกล่าวโดยอายุความ แม้โจทก์ทั้งสองยังไม่ได้จดทะเบียนภารจำยอม แต่โจทก์ทั้งสองก็สามารถยกเลิกภารจำยอมซึ่งยังไม่ได้จดทะเบียนขึ้นใช้ยันจำเลยทั้งสองผู้ได้ที่ดินทั้งสองแปลงดังกล่าวมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตและจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วได้ ทั้งนี้ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 800/2502 คดีระหว่าง หลวงสุภาเทพ โจทก์ นางอิ่มจิตรถาวรธนสาร จำเลย ดังนั้น ที่ศาลชั้นต้นไม่กำหนดประเด็นข้อพิพาทเพิ่มตามที่จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องจึงชอบแล้ว ฎีกาจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share