คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6299/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยให้การว่าได้ชำระหนี้ค่าแชร์ให้โจทก์ครบถ้วนแล้วภาระการพิสูจน์ว่าจำเลยได้ชำระหนี้ให้แก่โจทก์ครบถ้วนแล้วจึงตกอยู่แก่จำเลย โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระดอกเบี้ยให้แก่โจทก์นับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยใช้ดอกเบี้ยให้แก่โจทก์นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปนั้นจึงเป็นการไม่ชอบ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์และสามีร่วมเล่นแชร์กับจำเลยซึ่งเป็นหัวหน้าวงแชร์ โจทก์และสามีประมูลได้ แต่จำเลยนำเงินที่เก็บรวบรวมได้ไปใช้ส่วนตัว คงชำระให้แก่โจทก์และสามีเพียงบางส่วน จำเลยทำสัญญาให้โจทก์ยึดไว้เป็นหลักประกันในการชำระหนี้ดังกล่าวแต่เมื่อครบกำหนดตามสัญญาแล้วจำเลยไม่ชำระ ขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 22,374 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีในต้นเงิน 19,800 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การว่า จำเลยได้นำเงินที่เป็นหนี้ค่าแชร์ทั้งหมดมามอบให้โจทก์ครบถ้วนแล้ว ทำให้มูลหนี้แชร์ระหว่างโจทก์และจำเลยไม่มีต่อกัน ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิพากษายก ฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ โดยผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองว่ามีเหตุอันควรอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษากลับ ให้จำเลยชำระเงิน 22,374 บาทแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน19,800 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองว่า มีเหตุสมควรที่จะฎีกาในข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยให้การต่อสู้ว่าจำเลยได้ชำระหนี้ค่าแชร์ให้โจทก์ครบถ้วนแล้ว ภาระการพิสูจน์ว่าจำเลยได้ชำระหนี้ให้แก่โจทก์ครบถ้วนแล้วจึงตกอยู่แก่จำเลย ดังนั้นเมื่อพยานหลักฐานของจำเลยไม่มีน้ำหนักให้ฟังได้ว่าจำเลยได้ชำระหนี้ค่าแชร์ให้แก่โจทก์ครบถ้วน จำเลยจึงต้องรับผิดชำระหนี้ให้แก่โจทก์ตามฟ้องแต่ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาให้จำเลยชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 19,800 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จให้แก่โจทก์นั้น ปรากฏว่าโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ในต้นเงิน19,800 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาให้จำเลยใช้ดอกเบี้ยให้แก่โจทก์นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปนั้น จึงเป็นการไม่ชอบ
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 19,800 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3

Share