แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้เสียหายใช้ไม้ท่อนยาวประมาณ1ศอกขว้างถูกจำเลยจนจำเลยตกลงไปในสระน้ำแล้ววิ่งเข้าหาจำเลยใช้ไม้ตีซ้ำอีกในขณะที่จำเลยกำลังขึ้นจากสระน้ำจำเลยก็ชอบที่จะกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อป้องกันตนเองให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงโดยพอสมควรแก่เหตุได้ฉะนั้นการที่จำเลยใช้อาวุธแทงทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย3ครั้งเพื่อยับยั้งมิให้ผู้เสียหายใช้ไม้ท่อนตีทำร้ายร่างกายจำเลยอีกต่อไปไม่ว่าอาวุธที่จำเลยใช้แทงผู้เสียหายเป็นอาวุธมีดดังที่โจทก์นำสืบหรือเป็นใบเลื่อยดังที่จำเลยอ้างแต่เมื่อเปรียบเทียบกับไม้ท่อนที่ผู้เสียหายใช้ตีทำร้ายร่างกายจำเลยแล้วเป็นกระทำไปพอสมควรแก่เหตุการกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันตนเองโดยชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา68จำเลยย่อมไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 80, 297
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 80 ลงโทษจำคุก 10 ปี
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษากลับ ให้ยก ฟ้อง
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่ผู้เสียหายใช้ไม้ท่อนยาวประมาณ1 ศอก ขว้างถูกจำเลย จนจำเลยตกลงไปในสระน้ำแล้ววิ่งเข้าไปหาจำเลยใช้ไม้ตีซ้ำอีกในขณะที่จำเลยกำลังขึ้นจากสระน้ำ จำเลยก็ชอบที่จะกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อป้องกันตนเองให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงโดยพอสมควรแก่เหตุได้ ฉะนั้นการที่จำเลยใช้อาวุธแทงทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย 3 ครั้ง เพื่อยับยั้งมิให้ผู้เสียหายใช้ไม้ท่อนตีทำร้ายร่างกายจำเลยอีกต่อไปไม่ว่าอาวุธที่จำเลยใช้แทงผู้เสียหายเป็นอาวุธมีดดังที่โจทก์นำสืบหรือเป็นใบเลื่อยดังที่จำเลยอ้าง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับไม้ท่อนที่ผู้เสียหายใช้ตีทำร้ายร่างกายจำเลยแล้ว เห็นว่า จำเลยกระทำไปพอสมควรแก่เหตุ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันตนเองโดยชอบด้วยกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 จำเลยย่อมไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย
พิพากษายืน