คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2540/2539

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยที่1เป็นเจ้าของที่ดินที่มีการก่อสร้างและตอกเสาเข็มยินยอมให้จำเลยที่2ขออนุญาตก่อสร้างบนที่ดินมีจำเลยที่3เป็นผู้จ้างให้จำเลยที่4ดำเนินการตอกเสาเข็มบนที่ดินเมื่อเกิดความเสียหายแก่อาคารของโจทก์ที่1ซึ่งอยู่บนที่ดินข้างเคียงจำเลยที่1ถึงที่3ก็เคยเข้าไปตรวจดูแลซ่อมแซมให้บางส่วนพฤติการณ์ดังกล่าวย่อมแสดงให้เห็นว่าจำเลยที่1ถึงที่3มีผลประโยชน์ร่วมกันในการก่อสร้างอาคารบนที่ดินของจำเลยที่1แม้จำเลยที่3จะเป็นผู้จ้างให้จำเลยที่4ตอกเสาเข็มแต่ก็เพื่อประโยชน์ของจำเลยที่1ถึงที่3ด้วยถือได้ว่าจำเลยที่1ถึงที่3เป็นผู้ร่วมกันจ้างจำเลยที่4ในการตอกเสาเข็มซึ่งโดยปกติผู้ว่าจ้างทำของไม่ต้องรับผิดเพื่อความเสียหายอันผู้รับจ้างได้ก่อให้เกิดขึ้นแก่บุคคลภายนอกในระหว่างทำการงานที่ว่าจ้างเว้นแต่ผู้ว่าจ้างจะเป็นผู้ผิดในส่วนการงานที่สั่งให้ทำหรือในคำสั่งที่ตนให้ไว้หรือในการเลือกหาผู้รับจ้างการที่จำเลยที่4ตอกเสาเข็มตามแผนผังแบบแปลนการก่อสร้างของจำเลยที่1ถึงที่3ห่างรั้วกำแพงของโจทก์เพียง2เมตรเท่ากับจำเลยที่4ได้ดำเนินการตามคำสั่งของจำเลยที่1ถึงที่3จำเลยที่1ถึงที่3ผู้ว่าจ้างจึงเป็นผู้ผิดในส่วนการงานที่สั่งให้ทำอันทำให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ที่1 ที่ศาลชั้นต้นกำหนดค่าเสียหายของโจทก์ที่1โดยพิเคราะห์ตามคำเบิกความของ ย. พยานโจทก์ที่1ประกอบภาพถ่ายและใบประเมินราคาแล้วเห็นว่ากำแพงรั้วพื้นซีเมนต์ตัวอาคารและสระน้ำเสียหายเป็นจำนวนมากจึงเหมาะสมแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า โจทก์ ที่ 1 เป็น เจ้าของ กรรมสิทธิ์ ที่ดิน โฉนดเลขที่ 986 พร้อม สิ่งปลูกสร้าง โจทก์ ที่ 2 เป็น ผู้เช่า ที่ดินและ สิ่งปลูกสร้าง ดังกล่าว เพื่อ ประกอบการค้า เป็น ห้องพัก อาศัยให้ เช่า ใช้ ชื่อ ว่า โรงแรม มาเมโซงค์ จำเลย ที่ 1 เป็น เจ้าของ ที่ดิน โฉนด เลขที่ 915 ซึ่ง มี เขต ติดต่อ กับ ที่ดิน ของ โจทก์ ที่ 1 จำเลย ที่ 2เป็น เจ้าของ โครงการ ก่อสร้าง อาคาร โรงแรม พัทยาเซ็นเตอร์ ซึ่ง จะ ทำการ ปลูกสร้าง ลง บน ที่ดิน ของ จำเลย ที่ 1 โดย จำเลย ที่ 2เป็น ผู้ขออนุญาต ก่อสร้าง อาคาร ต่อ เทศบาล จำเลย ที่ 3 เป็น ผู้รับเหมางาน ก่อสร้าง อาคาร โรงแรม พัทยาเซ็นเตอร์ จาก จำเลย ที่ 1 และ ที่ 2จำเลย ที่ 4 โดย จำเลย ที่ 5 หุ้นส่วน ผู้จัดการ เป็น ผู้รับจ้างตอก เสาเข็ม ตาม แผนผัง ใน แบบแปลน และ คำสั่ง ของ จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3จำเลย ที่ 1 และ ที่ 2 ได้ว่า จ้าง และ มี คำสั่ง ให้ จำเลย ที่ 3 ผู้รับเหมาทำการ ก่อสร้าง อาคาร โรงแรม พัทยาเซ็นเตอร์ ตาม แบบแปลน ที่ ได้รับ อนุญาต จาก เทศบาล ลง บน ที่ดิน ของ จำเลย ที่ 1 จำเลย ที่ 3 เป็น ผู้สั่งซื้อ เสาเข็ม คอนกรีต และ ได้ว่า จ้าง จำเลย ที่ 4 ให้ ทำการ ตอก เสาเข็มโดย จำเลย ที่ 3 เป็น ผู้ เลือก หา ผู้รับจ้าง เอง จำเลย ที่ 4 ได้ ดำเนินการตอก เสาเข็ม ด้วย ความประมาท เลินเล่อ เป็นเหตุ ให้ กำแพง คอนกรีตพื้น ปูน บริเวณ ด้านหลัง อาคาร ห้องพัก ผนัง อาคาร ห้องพัก ท่อ น้ำและ สระ น้ำ ของ โจทก์ ที่ 1 ได้รับ ความเสียหาย และ ทำให้ โจทก์ ที่ 2ต้อง ขาด รายได้ จาก การ ให้ เช่า ห้องพัก เป็น เวลา 3 เดือน ขอให้ บังคับจำเลย ทั้ง ห้า ร่วมกัน ชดใช้ เงิน จำนวน 289,697 บาท พร้อม ดอกเบี้ยแก่ โจทก์ ที่ 1 ให้ จำเลย ทั้ง ห้า ร่วมกัน ชำระ เงิน จำนวน 144,281 บาทพร้อม ดอกเบี้ย แก่ โจทก์ ที่ 2
จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 ให้การ ว่า จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 ไม่ได้กระทำ ละเมิด หรือ ต้อง ร่วมรับผิด ใน เหตุ ละเมิด ต่อ โจทก์ ทั้ง สอง เพราะจำเลย ที่ 1 เป็น เพียง เจ้าของ ที่ดิน จำเลย ที่ 2 เป็น เจ้าของสิ่ง ก่อสร้าง และ เป็น ผู้ขออนุญาต ก่อสร้าง และ จำเลย ที่ 3 เป็นนิติบุคคล ตาม กฎหมาย มิใช่ ผู้รับเหมา งาน ก่อสร้าง ตอก เสาเข็ม จากจำเลย ที่ 1 และ ที่ 2 จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 มิใช่ นายจ้าง หรือ ตัวการ ของจำเลย ที่ 4 และ ที่ 5 การกระทำ ของ จำเลย ที่ 4 และ ที่ 5 ก็ มิใช่การกระทำ ใน ทางการที่จ้าง ของ จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 ค่าเสียหาย ตาม ฟ้องสูง เกิน ไป ขอให้ ยกฟ้อง
จำเลย ที่ 4 และ ที่ 5 ขาดนัด ยื่นคำให้การ และ จำเลย ทั้ง ห้าขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้น พิจารณา แล้ว พิพากษา ให้ จำเลย ที่ 4 และ ที่ 5 ร่วมกันชำระ เงิน จำนวน 289,697 บาท พร้อม ดอกเบี้ย อัตรา ร้อยละ 7.5 ต่อ ปีจาก ต้นเงิน 271,062 บาท นับ ถัด จาก วันฟ้อง (ฟ้อง วันที่ 28ธันวาคม 2533) จนกว่า จะ ชำระ เสร็จ แก่ โจทก์ ที่ 1 และ ให้ จำเลย ที่ 4และ ที่ 5 ร่วมกัน ชำระ เงิน จำนวน 144,281 บาท พร้อม ดอกเบี้ย อัตราร้อยละ 7.5 ต่อ ปี จาก ต้นเงิน 135,000 บาท นับ ถัด จาก วันฟ้องจนกว่า ชำระ เสร็จ แก่ โจทก์ ที่ 2 ให้ยก ฟ้อง จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3
โจทก์ ทั้ง สอง อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 พิพากษาแก้ เป็น ว่า ให้ จำเลย ที่ 1 ที่ 2และ ที่ 3 ร่วมรับผิด ใน ความเสียหาย ของ โจทก์ ทั้ง สอง กับ จำเลย ที่ 4และ ที่ 5 ด้วย นอกจาก ที่ แก้ ให้ เป็น ไป ตาม คำพิพากษา ศาลชั้นต้น
จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “มี ปัญหา ต้อง วินิจฉัย ตาม ฎีกา ของจำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 ว่า จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 ต้อง รับผิด ต่อโจทก์ ที่ 1 หรือไม่ เห็นว่า จำเลย ที่ 1 เป็น เจ้าของ ที่ดิน ที่ มี การก่อสร้าง และ ตอก เสาเข็ม จำเลย ที่ 2 เป็น ผู้ขออนุญาต ก่อสร้างบน ที่ดิน ของ จำเลย ที่ 1 โดย ได้รับ ความ ยินยอม จาก จำเลย ที่ 1 และจำเลย ที่ 3 เป็น ผู้จ้าง ให้ จำเลย ที่ 4 ดำเนินการ ตอก เสาเข็ม เพื่อการ ก่อสร้าง บน ที่ดิน ของ จำเลย ที่ 1 อีก ทั้ง จำเลย ที่ 1 ก็ เป็นหุ้นส่วน ผู้จัดการ ของ จำเลย ที่ 3 จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 มิได้ นำสืบให้ เห็นว่า ขณะ ก่อสร้าง นั้น ผู้ใด เป็น เจ้าของ และ รับผิดชอบ ใน การก่อสร้าง อาคาร โรงแรม บน ที่ดิน ของ จำเลย ที่ 1 ทั้ง ได้ความ จากคำเบิกความ ของ จำเลย ที่ 1 และ ที่ 2 ว่า เมื่อ ปรากฏว่า เกิด ความเสียหาย แก่ อาคาร ของ โจทก์ ที่ 1 จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 ก็ เคย เข้า ไปตรวจ ดูแล ซ่อมแซม ให้ บางส่วน พฤติการณ์ ดังกล่าว ย่อม เห็น ได้ว่าจำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 มีผล ประโยชน์ ร่วมกัน ใน การก่อสร้างอาคารโรงแรม บน ที่ดิน ของ จำเลย ที่ 1 แม้ จำเลย ที่ 3 จะ เป็น ผู้จ้าง ให้จำเลย ที่ 4 ตอก เสาเข็ม แต่ ก็ เพื่อ ประโยชน์ แก่ จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3ถือได้ว่า จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 เป็น ผู้ ร่วมกัน จ้าง จำเลย ที่ 4ใน การ ตอก เสาเข็ม นั่นเอง การจ้าง จำเลย ที่ 4 ดังกล่าว ก็ เพื่อความ สำเร็จ ใน การ ตอก เสาเข็ม ให้ จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 เท่านั้นจึง เป็น การ รับจ้างทำของ ซึ่ง โดยปกติ ผู้ว่าจ้าง ทำของ ไม่ต้อง รับผิดเพื่อ ความเสียหาย อัน ผู้รับจ้าง ได้ ก่อ ให้ เกิดขึ้น แก่ บุคคลภายนอกใน ระหว่าง ทำการ งาน ที่ ว่าจ้าง เว้นแต่ ผู้ว่าจ้าง จะ เป็น ผู้ ผิดใน ส่วน การงาน ที่ สั่ง ให้ ทำ หรือ ใน คำสั่ง ที่ ตน ให้ ไว้ หรือ ใน การเลือก หา ผู้รับจ้าง ตาม ที่ บัญญัติ ไว้ ใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 428 ซึ่ง การ ที่ จำเลย ที่ 4 ตอก เสาเข็ม ตาม แผนผัง แบบแปลนการ ก่อสร้าง ของ จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 ห่าง รั้ว กำแพง ของ โจทก์เพียง 2 เมตร เท่ากับ จำเลย ที่ 4 ดำเนินการ ตาม คำสั่ง ของ จำเลย ที่ 1ถึง ที่ 3 จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 ย่อม ตระหนัก ดี ว่าการ ตอก เสาเข็มขนาด ใหญ่ ใกล้ ที่ดิน ของ ผู้อื่น ย่อม ทำให้ ที่ดิน ข้างเคียง ถูกกระทบ กระเทือน อย่าง แรง อัน จะ เป็นเหตุ ให้ อาคาร และ ทรัพย์สิน ของโจทก์ ที่ 1 เสียหาย ได้ ไม่ปรากฏ ว่า จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 ได้ กำชับสั่ง ให้ จำเลย ที่ 4 หา วิธีการ ป้องกัน ความเสียหาย ของ ที่ดินข้างเคียง ที่ อาจ ได้รับ ดังกล่าว ถือได้ว่า จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3ผู้ว่าจ้าง ให้ ตอก เสาเข็ม เป็น ผู้ ผิด ใน ส่วน การงาน ที่ สั่ง ให้ ทำจำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 จึง ต้อง รับผิด ใน ความเสียหาย ของ โจทก์ ที่ 1ส่วน ที่ จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 ฎีกา ว่า คำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ ภาค 1ไม่ชอบ เพราะ วินิจฉัย โดย ปราศจาก พยานหลักฐาน ใน สำนวน นั้น ศาลฎีกาตรวจ สำนวน แล้ว ไม่ปรากฏ ว่า ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 จะ วินิจฉัย โดย ปราศจากพยานหลักฐาน ใน สำนวน แต่อย่างใด ได้ ใช้ ดุลพินิจ ฟัง พยานหลักฐาน ในสำนวน โดยชอบ แล้ว ทั้ง ได้ พิพากษา ให้ จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 รับผิด ต่อโจทก์ ที่ 1 ตาม บทบัญญัติ แห่งกฎหมาย ดัง ที่ ศาลฎีกา ยกมา กล่าว แล้วเพียงแต่ ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 มิได้ อ้าง บทบัญญัติ มาตรา แห่งกฎหมายเท่านั้น ศาลฎีกา เห็นพ้อง ด้วย กับ คำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 ฎีกาของ จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 ฟังไม่ขึ้น
มี ปัญหา ต้อง วินิจฉัย ตาม ฎีกา ของ จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3ประการ สุดท้าย ว่า ศาลชั้นต้น กำหนด ให้ รับผิด ใน ค่าเสียหาย ของโจทก์ ที่ 1 สูง เกิน ไป นั้น เห็นว่า โจทก์ ที่ 1 มี นาย ยวน บุอ้น เบิกความ ยืนยัน ว่า ได้ ไป ประเมิน ราคา ค่าซ่อมแซม เกี่ยวกับ กำแพง รั้วและ อาคาร ของ โจทก์ ที่ 1 ที่ เสียหาย แล้ว เป็น เงิน 164,862 บาทตาม ใบ ประเมิน ราคา เอกสาร หมาย จ. 8 และ โจทก์ ที่ 2 เบิกความ ยืนยัน ว่าโจทก์ ที่ 1 ต้อง ซ่อมแซม สระ น้ำ ไป เป็น เงิน 106,200 บาท และ โจทก์ ที่ 1ได้ ถ่าย ภาพ ความเสียหาย ของ สิ่ง ก่อสร้าง ต่าง ๆ ไว้ ตาม เอกสาร หมาย จ. 7เมื่อ พิเคราะห์ ภาพถ่าย เอกสาร หมาย จ. 7 ประกอบ คำเบิกความ ของ พยานโจทก์ ที่ 1 และ ใบ ประเมิน ราคา เอกสาร หมาย จ. 8 แล้ว เห็นว่า กำแพง รั้วพื้น ซีเมนต์ ตัว อาคาร และ สระ น้ำ ของ โจทก์ ที่ 1 เสียหาย เป็น จำนวน มากค่าเสียหาย ที่ ศาลชั้นต้น กำหนด มา จึง เหมาะสม แล้ว ฎีกา ของ จำเลย ที่ 1ถึง ที่ 3 ข้อ นี้ ฟังไม่ขึ้น เช่นกัน ”
พิพากษายืน และ ให้ยก ฎีกา ของ จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 ใน ส่วน ที่เกี่ยวกับ โจทก์ ที่ 2 คืน ค่าขึ้นศาล ชั้นฎีกา จำนวน 3607.50 บาทแก่ จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 ค่าฤชาธรรมเนียม ชั้นฎีกา ให้ เป็น พับ

Share