คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2280/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ห.เป็นบุตรจำเลยกับ อ. โจทก์ฟ้องคดีนี้ให้ ห.กับพวกโดยยกข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาว่าจำเลยโอนที่ดินส่วนที่เป็นมรดกของ อ.ให้นาง อำนวยเพียงผู้เดียวไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะจำเลยมิใช่ผู้จัดการมรดกขอให้เพิกถอนการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเฉพาะส่วนที่เป็นมรดกของ อ.คืนให้กองมรดกเป็นการกล่าวอ้างว่านาง อำนวยมีส่วนร่วมกับจำเลยกระทำการโต้แย้งสิทธิ ห.กับพวกโจทก์มีสิทธิฟ้องจำเลยแทน ห.กับพวกได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1562ประกอบพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการพ.ศ.2521มาตรา5(1)โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องนาง อำนวยได้ด้วยเพราะมูลคดีเกี่ยวข้องกันเมื่อโจทก์ไม่ฟ้องนาง อำนวยมาด้วยศาลจึงไม่อาจพิพากษาคดีให้มีผลไปถึงนาง อำนวยผู้รับโอนที่ดินซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา145

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า นาย อาจ อรรถวิเวก อยู่กิน เป็น สามี ภรรยา กับ จำเลย ตาม กฎหมายลักษณะผัวเมีย มี บุตร 6 คน ซึ่ง รวมทั้ง นาย หาญ อรรถวิเวก ด้วย นาย อาจ ถึงแก่กรรม โดย ไม่ได้ ทำ พินัยกรรม มี ที่ดิน เป็น มรดก ของ นาย อาจ ที่ ตกทอด แก่ ทายาทโดยธรรม ต่อมา จำเลย ได้ โอน กรรมสิทธิ์ ที่ดิน ส่วน ที่ เป็น ของ จำเลย และ ส่วน ที่ เป็น มรดก ของนาย อาจ ให้ นาง อำนวย เณรรักษา โดยเสน่หา แต่เพียง ผู้เดียว นาย หาญ เป็น บุตร ผู้มีสิทธิ รับมรดก ของ นาย อาจ ได้ ร้องขอ ต่อ โจทก์ ให้ ฟ้อง เพิกถอน นิติกรรม การ โอน ที่ดิน ส่วน ที่ เป็น มรดก ของ นาย อาจ ขอให้ เพิกถอน การ โอน ที่ดิน ดังกล่าว เฉพาะ ส่วน ที่ เป็น มรดก ของ นาย อาจ เข้า กอง มรดก ของ นาย อาจ หาก จำเลย ไม่ปฏิบัติ ให้ ถือเอา คำพิพากษา แทน การแสดง เจตนา ของ จำเลย
จำเลย ให้การ ว่า ฟ้องโจทก์ เคลือบคลุม บุตร ของ จำเลย และ นาย อาจ มี เฉพาะ นาง อำนวย เณรรักษา เท่านั้น ที่ ครอบครอง ทำประโยชน์ ใน ที่ดินพิพาท ร่วม กับ จำเลย มา ตั้งแต่ ก่อน นาย อาจ ถึงแก่กรรม จน ถึง บัดนี้ เป็น เวลา 10 ปี เศษ คดี ขาดอายุความ มรดก แล้ว นอกจาก นี้หลังจาก ที่ จำเลย รับมรดก ที่ดินพิพาท มา แล้ว ได้ นำ ไป จำนอง และ ขายฝากก่อน ที่นาย อาจ จะ ถึงแก่กรรม หลังจาก นาย อาจ ถึงแก่กรรม แล้ว เมื่อ ใกล้ จะ ครบ กำหนด ตาม สัญญาขายฝาก นาย สงบ เณรรักษา สามี ของ นาง อำนวย ได้ นำ เงิน ไป ไถ่ถอน การ ขายฝาก จำเลย จึง โอน ที่ดินพิพาท ให้ นาง อำนวย
ศาลชั้นต้น พิพากษายก ฟ้อง
โจทก์ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษายืน
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า โจทก์ ฟ้อง จำเลย โดย ยก ข้ออ้าง ที่อาศัยเป็น หลักแห่งข้อหา ว่า จำเลย โอน ที่ดิน ส่วน ที่ เป็น มรดก ของ นาย อาจ ให้ นาง อำนวย แต่เพียง ผู้เดียว ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะ จำเลย มิใช่ ผู้จัดการมรดก ขอให้ เพิกถอน การ โอน กรรมสิทธิ์ ที่ดิน ดังกล่าว ได้เฉพาะ ส่วน ที่ เป็น กอง มรดก ของ นาย อาจ คืน ให้ กอง มรดก เป็น การ กล่าวอ้าง ว่า นาง อำนวย มี ส่วน ร่วม กับ จำเลย กระทำการ โต้แย้ง สิทธิ นาย หาญ กับพวก ด้วย โจทก์ มีสิทธิ ฟ้อง จำเลย แทน นาย หาญ กับพวก ได้ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1562 ประกอบ พระราชบัญญัติระเบียบ ข้าราชการ ฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2521 มาตรา 5(1) จึง มีสิทธิ ฟ้องนาง อำนวย ซึ่ง ร่วม กับ จำเลย กระทำการ โต้แย้ง สิทธิ ของ นาย หาญ กับพวก ได้ ด้วย เพราะ มูลคดี เกี่ยวข้อง กัน เมื่อ โจทก์ มิได้ ฟ้องนาง อำนวย ผู้รับโอน ที่ดิน มา ด้วย ศาล จึง ไม่อาจ พิพากษาคดี ให้ มีผล ไป ถึง นาง อำนวย ผู้รับโอน ที่ดิน ซึ่ง เป็น บุคคลภายนอก ได้ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145
พิพากษายืน

Share